กระทู้เก่าบอร์ด อ.Yeadram
7,662 21
URL.หัวข้อ /
URL
การเลือกลุ่มสินค้าและการตัดยอดคงคลัง
หนูมีปัญหาอยากถามอาจารย์และผู้รู้ค่ะ สามารถทำได้หรือเปล่า คือหนูมีสินค้าอยู่หลายชนิด และแบ่งออกเป็นกลุ่มๆๆ โดยใช้ตัวเลขเป็นระหัสสินค้า (จริงๆมี 12 ตัว แต่หนููสมมุติแค่ 3 ตัวเพื่อจะได้เข้าใจง่าย) เวลามีสินค้าเข้ามาที่สาขาใหญ่ จะมาเยอะมาก แล้วเราจะตัดสต๊อก เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ในปริมาณหนึ่ง ที่เหลือก็ส่งให้สาขาย่อย สมมุติว่าสินค้าในกลุ่มนั้นๆ มี 6 ชนิด แต่ละชนิดสินค้า มีจำนวนไม่เท่ากัน แต่เราจะตัดสต๊อกรวมแค่ 500 โดยส่วนที่เหลือก็จะส่งให้สาขาย่อยโดยเฉลี่ยจากสินค้าทั้ง 6 ชนิดนั้น ถ้าสินค้าชนิดไหนมีน้อยก็ไม่ต้องส่ง ให้ตัดสินค้าที่มีจำนวนมากแทน แต่สินค้าคงคลังต้องไม่เกิน 500 เหมือนในตารางค่ะ
จะสามารถทำได้ไหมค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ น้องพร
จะสามารถทำได้ไหมค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ น้องพร
21 Reply in this Topic. Dispaly 2 pages and you are on page number 1
2 @R08087
ประมาณว่าตัดให้เท่ากันได้ก็ดี แต่ถ้ามีสินค้าบางตัวที่มีจำนวนน้อยมากก็ไม่จำเป็นต้องตัด ให้ตัดตัวที่มากกว่าแทนและเมื่อสินค้าเหลือคงคลังรวมกันให้ได้เท่าที่เรากำหนดค่ะ
3 @R08127
ตัดอย่างไรก็ได้ ขอให้สินค้าในกลุ่มเหลือเท่าที่เรากำหนดเป็นสินค้าคงคลัง
ขอบคุณค่ะ พร
ตัดอย่างไรก็ได้ ขอให้สินค้าในกลุ่มเหลือเท่าที่เรากำหนดเป็นสินค้าคงคลัง
ขอบคุณค่ะ พร
4 @R08131
เรียนคุณ พร
ปกติ programming ควรจะต้องมีตรรกกะ ในการ กระทำ
Programmer จะหาหลักการเพื่อทำตาม requirement ที่ต้องการ
ยกตัวอย่าง โจทย์ข้อนี้
สรุปได้ตอนนี้คือ
สินค้าในกลุ่มเดียวกัน ต้องเหลือรวมกัน ไม่ต่ำกว่า 500 (เลขสมมุติ)
ที่สรุปไม่ได้
ไม่ได้บอกว่า สินค้าในกลุ่มเดียวกัน บางตัวเหลือ 0 ได้หรือไม่ เมื่อ สินค้ากลุ่มนั้นเหลือตามที่กำหนดแล้ว
รู้ว่าสินค้ามีจำนวนน้อย (programmer จะรู้ได้อย่างไร ว่าสินค้านั้นเหลือน้อยแล้ว) เทียบกับอะไร หรือเทียบกับจำนวนสินค้าตัวอื่นในกลุ่มเดียวกัน (ตัดตัวที่มีจำนวนมากกว่าก่อนในกลุ่ม)
ปกติ programming ควรจะต้องมีตรรกกะ ในการ กระทำ
Programmer จะหาหลักการเพื่อทำตาม requirement ที่ต้องการ
ยกตัวอย่าง โจทย์ข้อนี้
สรุปได้ตอนนี้คือ
สินค้าในกลุ่มเดียวกัน ต้องเหลือรวมกัน ไม่ต่ำกว่า 500 (เลขสมมุติ)
ที่สรุปไม่ได้
ไม่ได้บอกว่า สินค้าในกลุ่มเดียวกัน บางตัวเหลือ 0 ได้หรือไม่ เมื่อ สินค้ากลุ่มนั้นเหลือตามที่กำหนดแล้ว
รู้ว่าสินค้ามีจำนวนน้อย (programmer จะรู้ได้อย่างไร ว่าสินค้านั้นเหลือน้อยแล้ว) เทียบกับอะไร หรือเทียบกับจำนวนสินค้าตัวอื่นในกลุ่มเดียวกัน (ตัดตัวที่มีจำนวนมากกว่าก่อนในกลุ่ม)
5 @R08132
อยากให้คุณพร พยายามรวบรวมเหตุผล
หรือหลักการจากการทำงานอยู่ ให้พอเป็นรูปธรรม
แล้ว ท่าน อาจารย์ทั้งหลาย ใน web
จะช่วยก่อให้เป็นรูปเป็นร่างให้ครับ
หรือหลักการจากการทำงานอยู่ ให้พอเป็นรูปธรรม
แล้ว ท่าน อาจารย์ทั้งหลาย ใน web
จะช่วยก่อให้เป็นรูปเป็นร่างให้ครับ
6 @R08152
สิ่งที่หนูต้องการคือ
1.เวลาปิดกะประจำวัน จะเช็คยอดของแต่ละสาขาค่ะ โดยมีข้อกำหนดว่าสินค้าคงคลังไม่เหมือนกัน (ของแต่ละสาขา) ส่วนสินค้าที่มีมากเกินไปก็ส่งต่อให้อีกสาขาอื่นเพื่อไม่ให้สินค้าในกลุ่มนั้นกระจุกตัวที่สาขาใด สาขาหนึ่งมากเกินไป
2.สินค้าแต่ละชนิดสามารถมีค่าเป็น 0 ได้ แต่มีค่าติดลบไม่ได้
3.ถ้าเป็นไปได้ คือ เวลาสินค้ารวมของกลุ่มเกินที่กำหนด (ในที่นี้ กำหนด 500 ) ให้ตัดยอดสินค้าที่มีมากที่สุด ไปหายอดสินค้าที่มีน้อยสุด เพื่อจะให้เหลือเท่าที่เรากำหนด ถ้าสินค้ารวมของกลุ่มนั้น ๆ มีจำนวนน้อยกว่าค่าที่กำหนด (500) ก็ไม่ต้องตัดเลย
***จะเช็คยอดทุกวัน หลังปิดกะสุดท้ายของวัน (กะดึก)
รบกวนอาจารย์ด้วยนะค่ะ พร
1.เวลาปิดกะประจำวัน จะเช็คยอดของแต่ละสาขาค่ะ โดยมีข้อกำหนดว่าสินค้าคงคลังไม่เหมือนกัน (ของแต่ละสาขา) ส่วนสินค้าที่มีมากเกินไปก็ส่งต่อให้อีกสาขาอื่นเพื่อไม่ให้สินค้าในกลุ่มนั้นกระจุกตัวที่สาขาใด สาขาหนึ่งมากเกินไป
2.สินค้าแต่ละชนิดสามารถมีค่าเป็น 0 ได้ แต่มีค่าติดลบไม่ได้
3.ถ้าเป็นไปได้ คือ เวลาสินค้ารวมของกลุ่มเกินที่กำหนด (ในที่นี้ กำหนด 500 ) ให้ตัดยอดสินค้าที่มีมากที่สุด ไปหายอดสินค้าที่มีน้อยสุด เพื่อจะให้เหลือเท่าที่เรากำหนด ถ้าสินค้ารวมของกลุ่มนั้น ๆ มีจำนวนน้อยกว่าค่าที่กำหนด (500) ก็ไม่ต้องตัดเลย
***จะเช็คยอดทุกวัน หลังปิดกะสุดท้ายของวัน (กะดึก)
รบกวนอาจารย์ด้วยนะค่ะ พร
7 @R08154
ข้อสรุปปัจจุบัน
1 สามารถตัดยอดสินค้าได้เมื่อยอดรวมสินค้าคงเหลือของกลุ่ม >ยอดรวมสินค้าของกลุ่มตามที่กำหนด(500)
ถ้ามีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 500 ห้ามตัดกลุ่มสินค้านี้
[BLUE]ต้องตรวจสอบยอดคงเหลือของกลุ่มก่อนตัดทุกครั้ง
ต้องมียอดคงเหลือของกลุ่มมากกว่าค่าที่กำหนด[/COLOR]
2 ตัดยอดสินค้าในกลุ่มเดียวกันโดยตัดจากสินค้าที่มียอดคงเหลือมากสุด
[BLUE]ต้องตรวจสอบยอดคงเหลือของสินค้าในกลุ่มเดียวกันว่า
สินค้าตัวไหนเหลือมากกว่ากัน[/COLOR]
3 ยอดสินค้าห้ามติดลบ(>=0)
สอบถามเพิ่มเติมครับ
สินค้า ในกลุ่มเดียวกัน สามารถตัดยอดแทนกันได้หรือไม่
หรือเป็นสินค้าชนิดเดียวกันหรือไม่ แล้วแตกต่างกันอย่างไร
เห็นรหัส เรียงสลับกันไปมา เช่น 102,120,201,210,012,021
1 สามารถตัดยอดสินค้าได้เมื่อยอดรวมสินค้าคงเหลือของกลุ่ม >ยอดรวมสินค้าของกลุ่มตามที่กำหนด(500)
ถ้ามีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 500 ห้ามตัดกลุ่มสินค้านี้
[BLUE]ต้องตรวจสอบยอดคงเหลือของกลุ่มก่อนตัดทุกครั้ง
ต้องมียอดคงเหลือของกลุ่มมากกว่าค่าที่กำหนด[/COLOR]
2 ตัดยอดสินค้าในกลุ่มเดียวกันโดยตัดจากสินค้าที่มียอดคงเหลือมากสุด
[BLUE]ต้องตรวจสอบยอดคงเหลือของสินค้าในกลุ่มเดียวกันว่า
สินค้าตัวไหนเหลือมากกว่ากัน[/COLOR]
3 ยอดสินค้าห้ามติดลบ(>=0)
สอบถามเพิ่มเติมครับ
สินค้า ในกลุ่มเดียวกัน สามารถตัดยอดแทนกันได้หรือไม่
หรือเป็นสินค้าชนิดเดียวกันหรือไม่ แล้วแตกต่างกันอย่างไร
เห็นรหัส เรียงสลับกันไปมา เช่น 102,120,201,210,012,021
8 @R08155
โฟลว์การตัดยอดแบบไม่เฉลี่ยลำดับ สินค้าใดเหลือมากที่สุด จะถูกตัดก่อน
ถ้าตัดจากสินค้านั้นแล้ว ทั้งกลุ่มเหลือน้อยกว่า 500 จะข้ามไปทำงานที่กลุ่มต่อไปทันที
1 "นับจำนวนสินค้าในกลุ่ม" ของแต่ละกลุ่ม
2 เอา 500 ตั้ง เอาจำนวนสินค้าที่หาได้ในข้อ 1 มาหาร จะได้ค่าเฉลี่ยที่เหมาะสม ของแต่ละชนิดสินค้า ว่าควรจะเหลืออยู่ชนิดละเท่าไร
3 วนลูป
ลูปที่ 1 จำนวนรอบ = จำนวนกลุ่มสินค้า
ลูปที่ 2 จำนวนรอบ = จำนวนสินค้าในกลุ่มนั้นๆ (ให้เรียงลำดับตามจำนวนคงเหลือ จากมาก มาหาน้อย)
A ตรวจสอบจำนวนคงเหลือของสินค้านั้นๆ (เทียบกับคำตอบที่ได้จากข้อ2)
A1 ถ้ามากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มนั้นๆ ให้ลดมันลง โดยเก็บค่าที่หักออกเข้าตัวแปร(ควรจะเป็นตัวแปรอาเรย์ เพื่อจะได้ทราบว่า สินค้ารหัสใด ต้องเอาออกเท่าไร)
B รวมจำนวนคงเหลือของสินค้ากลุ่มนั้นอีกรอบ ว่า มากกว่าหรือน้อยกว่า 500
B1 ถ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 500 ให้ออกจากลูปที่ 2
จบลูปที่ 2
เอาค่าจากตัวแปรอาเรย์ ที่ได้จากข้อ A1 ไปรายงานผล หรือไปบันทึกผล ของสินค้ากลุ่มนั้นๆ
จบลูปที่ 1
จบงาน
ถ้าตัดจากสินค้านั้นแล้ว ทั้งกลุ่มเหลือน้อยกว่า 500 จะข้ามไปทำงานที่กลุ่มต่อไปทันที
1 "นับจำนวนสินค้าในกลุ่ม" ของแต่ละกลุ่ม
2 เอา 500 ตั้ง เอาจำนวนสินค้าที่หาได้ในข้อ 1 มาหาร จะได้ค่าเฉลี่ยที่เหมาะสม ของแต่ละชนิดสินค้า ว่าควรจะเหลืออยู่ชนิดละเท่าไร
3 วนลูป
ลูปที่ 1 จำนวนรอบ = จำนวนกลุ่มสินค้า
ลูปที่ 2 จำนวนรอบ = จำนวนสินค้าในกลุ่มนั้นๆ (ให้เรียงลำดับตามจำนวนคงเหลือ จากมาก มาหาน้อย)
A ตรวจสอบจำนวนคงเหลือของสินค้านั้นๆ (เทียบกับคำตอบที่ได้จากข้อ2)
A1 ถ้ามากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มนั้นๆ ให้ลดมันลง โดยเก็บค่าที่หักออกเข้าตัวแปร(ควรจะเป็นตัวแปรอาเรย์ เพื่อจะได้ทราบว่า สินค้ารหัสใด ต้องเอาออกเท่าไร)
B รวมจำนวนคงเหลือของสินค้ากลุ่มนั้นอีกรอบ ว่า มากกว่าหรือน้อยกว่า 500
B1 ถ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 500 ให้ออกจากลูปที่ 2
จบลูปที่ 2
เอาค่าจากตัวแปรอาเรย์ ที่ได้จากข้อ A1 ไปรายงานผล หรือไปบันทึกผล ของสินค้ากลุ่มนั้นๆ
จบลูปที่ 1
จบงาน
9 @R08163
ข้อสรุปปัจจุบัน
1 สามารถตัดยอดสินค้าได้เมื่อยอดรวมสินค้าคงเหลือของกลุ่ม >ยอดรวมสินค้าของกลุ่มตามที่กำหนด(500)
ถ้ามีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 500 ห้ามตัดกลุ่มสินค้านี้
ต้องตรวจสอบยอดคงเหลือของกลุ่มก่อนตัดทุกครั้ง
ต้องมียอดคงเหลือของกลุ่มมากกว่าค่าที่กำหนด
2 ตัดยอดสินค้าในกลุ่มเดียวกันโดยตัดจากสินค้าที่มียอดคงเหลือมากสุด
ต้องตรวจสอบยอดคงเหลือของสินค้าในกลุ่มเดียวกันว่า
สินค้าตัวไหนเหลือมากกว่ากัน
3 ยอดสินค้าห้ามติดลบ(>=0)
สอบถามเพิ่มเติมครับ
สินค้า ในกลุ่มเดียวกัน สามารถตัดยอดแทนกันได้หรือไม่
หรือเป็นสินค้าชนิดเดียวกันหรือไม่ แล้วแตกต่างกันอย่างไร
เห็นรหัส เรียงสลับกันไปมา เช่น 102,120,201,210,012,021
** ตอบคำถามค่ะ**
1.ไม่สามารถตัดแทนกันได้
2.ไม่ใช่ชนิดเดียวกันแต่คุณลักษณะใกล้เคียงกัน จริงๆระหัสประมาณนี้ค่ะ
1) 0759-012-00459
2) 0759-021-05512
3) 0759-102-37602
**โดยระหัสที่อยู่ตรงกลาง 3 ตำแหน่งบ่งบอกถึงกลุ่มค่ะ แล้ว 5 ตำแหน่งสุดท้ายบอกชนิด (เห็นเขาบอกว่าเป็นแบบ 12 NC ) ประมาณนี้ค่ะ
** สามารถทำเป็นคิวรี่ได้หรือเปล่าค่ะ อยากได้โค๊ด SQL หรือ VB ค่ะพอดีวันนี้ว่างทั้งวันค่ะอยากนั่งทำและลองศึกษาดูค่ะอาจารย์
ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ
1 สามารถตัดยอดสินค้าได้เมื่อยอดรวมสินค้าคงเหลือของกลุ่ม >ยอดรวมสินค้าของกลุ่มตามที่กำหนด(500)
ถ้ามีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 500 ห้ามตัดกลุ่มสินค้านี้
ต้องตรวจสอบยอดคงเหลือของกลุ่มก่อนตัดทุกครั้ง
ต้องมียอดคงเหลือของกลุ่มมากกว่าค่าที่กำหนด
2 ตัดยอดสินค้าในกลุ่มเดียวกันโดยตัดจากสินค้าที่มียอดคงเหลือมากสุด
ต้องตรวจสอบยอดคงเหลือของสินค้าในกลุ่มเดียวกันว่า
สินค้าตัวไหนเหลือมากกว่ากัน
3 ยอดสินค้าห้ามติดลบ(>=0)
สอบถามเพิ่มเติมครับ
สินค้า ในกลุ่มเดียวกัน สามารถตัดยอดแทนกันได้หรือไม่
หรือเป็นสินค้าชนิดเดียวกันหรือไม่ แล้วแตกต่างกันอย่างไร
เห็นรหัส เรียงสลับกันไปมา เช่น 102,120,201,210,012,021
** ตอบคำถามค่ะ**
1.ไม่สามารถตัดแทนกันได้
2.ไม่ใช่ชนิดเดียวกันแต่คุณลักษณะใกล้เคียงกัน จริงๆระหัสประมาณนี้ค่ะ
1) 0759-012-00459
2) 0759-021-05512
3) 0759-102-37602
**โดยระหัสที่อยู่ตรงกลาง 3 ตำแหน่งบ่งบอกถึงกลุ่มค่ะ แล้ว 5 ตำแหน่งสุดท้ายบอกชนิด (เห็นเขาบอกว่าเป็นแบบ 12 NC ) ประมาณนี้ค่ะ
** สามารถทำเป็นคิวรี่ได้หรือเปล่าค่ะ อยากได้โค๊ด SQL หรือ VB ค่ะพอดีวันนี้ว่างทั้งวันค่ะอยากนั่งทำและลองศึกษาดูค่ะอาจารย์
ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ
10 @R08164
โฟลว์การตัดยอดแบบไม่เฉลี่ยลำดับ สินค้าใดเหลือมากที่สุด จะถูกตัดก่อน
ถ้าตัดจากสินค้านั้นแล้ว ทั้งกลุ่มเหลือน้อยกว่า 500 จะข้ามไปทำงานที่กลุ่มต่อไปทันที
1 "นับจำนวนสินค้าในกลุ่ม" ของแต่ละกลุ่ม
2 เอา 500 ตั้ง เอาจำนวนสินค้าที่หาได้ในข้อ 1 มาหาร จะได้ค่าเฉลี่ยที่เหมาะสม ของแต่ละชนิดสินค้า ว่าควรจะเหลืออยู่ชนิดละเท่าไร
3 วนลูป
ลูปที่ 1 จำนวนรอบ = จำนวนกลุ่มสินค้า
ลูปที่ 2 จำนวนรอบ = จำนวนสินค้าในกลุ่มนั้นๆ (ให้เรียงลำดับตามจำนวนคงเหลือ จากมาก มาหาน้อย)
A ตรวจสอบจำนวนคงเหลือของสินค้านั้นๆ (เทียบกับคำตอบที่ได้จากข้อ2)
A1 ถ้ามากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มนั้นๆ ให้ลดมันลง โดยเก็บค่าที่หักออกเข้าตัวแปร(ควรจะเป็นตัวแปรอาเรย์ เพื่อจะได้ทราบว่า สินค้ารหัสใด ต้องเอาออกเท่าไร)
B รวมจำนวนคงเหลือของสินค้ากลุ่มนั้นอีกรอบ ว่า มากกว่าหรือน้อยกว่า 500
B1 ถ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 500 ให้ออกจากลูปที่ 2
จบลูปที่ 2
เอาค่าจากตัวแปรอาเรย์ ที่ได้จากข้อ A1 ไปรายงานผล หรือไปบันทึกผล ของสินค้ากลุ่มนั้นๆ
จบลูปที่ 1
จบงาน
*** อาจารย์ค่ะ ส่วนนี้ต้องเขียนที่โมดูลหรือ VB ค่ะ หนู งงมาก และหนูก็เป็นเด็กใหม่ค่ะ อาจารย์พอจะเขียนเป็นโค๊ดได้หรือเปล่าค่ะ รบกวนอาจารย์ด้วยนะค่ะ และก็ขอขอบคุณล่วงห้าค่ะ
ขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะ
ถ้าตัดจากสินค้านั้นแล้ว ทั้งกลุ่มเหลือน้อยกว่า 500 จะข้ามไปทำงานที่กลุ่มต่อไปทันที
1 "นับจำนวนสินค้าในกลุ่ม" ของแต่ละกลุ่ม
2 เอา 500 ตั้ง เอาจำนวนสินค้าที่หาได้ในข้อ 1 มาหาร จะได้ค่าเฉลี่ยที่เหมาะสม ของแต่ละชนิดสินค้า ว่าควรจะเหลืออยู่ชนิดละเท่าไร
3 วนลูป
ลูปที่ 1 จำนวนรอบ = จำนวนกลุ่มสินค้า
ลูปที่ 2 จำนวนรอบ = จำนวนสินค้าในกลุ่มนั้นๆ (ให้เรียงลำดับตามจำนวนคงเหลือ จากมาก มาหาน้อย)
A ตรวจสอบจำนวนคงเหลือของสินค้านั้นๆ (เทียบกับคำตอบที่ได้จากข้อ2)
A1 ถ้ามากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มนั้นๆ ให้ลดมันลง โดยเก็บค่าที่หักออกเข้าตัวแปร(ควรจะเป็นตัวแปรอาเรย์ เพื่อจะได้ทราบว่า สินค้ารหัสใด ต้องเอาออกเท่าไร)
B รวมจำนวนคงเหลือของสินค้ากลุ่มนั้นอีกรอบ ว่า มากกว่าหรือน้อยกว่า 500
B1 ถ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 500 ให้ออกจากลูปที่ 2
จบลูปที่ 2
เอาค่าจากตัวแปรอาเรย์ ที่ได้จากข้อ A1 ไปรายงานผล หรือไปบันทึกผล ของสินค้ากลุ่มนั้นๆ
จบลูปที่ 1
จบงาน
*** อาจารย์ค่ะ ส่วนนี้ต้องเขียนที่โมดูลหรือ VB ค่ะ หนู งงมาก และหนูก็เป็นเด็กใหม่ค่ะ อาจารย์พอจะเขียนเป็นโค๊ดได้หรือเปล่าค่ะ รบกวนอาจารย์ด้วยนะค่ะ และก็ขอขอบคุณล่วงห้าค่ะ
ขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะ
11 @R08168
ส่งตัวอย่างไปในเมล์กลางแล้วนะครับ
หัวข้อเดียวกันกระกระทู้นี้ บันทึก ณ วันนี้ 14:53 นาฬิกา
ตัวอย่าง เป็น mdb จาก access เวอร์ชั่น 2000 ( officeXP )
มีออปเจค
1 ตาราง (หลังการรันโค้ด จะมีเพิ่มมาอีก 1 เป็นตารางชั่วคราว)
1 คิวรี่แอ็คชั่น
1 รายงาน
1 โมดูล
- อย่าเปลี่ยนชื่อออบเจคใดๆ จนกว่าคุณจะมั่นใจว่า เข้าใจมันทั้งหมดแล้ว
- โครงสร้างตาราง หากตารางของคุณ มีชื่อฟิลด์ไม่เหมือนกันกับตัวอย่าง อาจต้องปรับแก้ไขหลายจุด ทั้งใน คิวรี่ โมดูล และ รายงาน
- โครงสร้างตาราง ที่สำคัญคือ รหัสสินค้า ต้องไม่ซ้ำกัน
- โครงสร้างคิวรี่ สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้เล็กน้อย (ได้ทำเผื่อไว้ให้แล้ว น่าจะประยุกต์ได้ง่าย)
- หน้าตารายงานปรับแต่งได้ตามสะดวก แต่เพื่อให้สัมพันธ์กันกับคิวรี่ ควรระมัดระวังเรื่องการอ้างอิงหากจะแก้ไข นิพจน์ใดๆ หรือคอนโทรลซอร์ส ใดๆ
- ทดสอบโปรแกรมได้ โดยเปิดโมดูลขึ้นมา >> วางเม้าส์พ้อยเตอร์ไว้ในบริเวณใดๆ ของฟังก์ชั่น แล้วกดปุ่ม F5 >> โปรแกรมจะทำงานหลายขั้นตอน อัตโนมัติทั้งหมด แล้วจะแสดงรายงานให้ดู (คุณอาจต้องย่อหน้าต่าง VBA เพื่อจะได้เห็นรายงาน)
- หากต้องการรันฟังก์ชั่นในโมดุลผ่านปุ่มคำสั่ง ให้สร้างปุ่มคำสั่งบนฟอร์ม แล้วฝั้งโค้ดไป 1 คำสั่ง ว่า
StockLimit
- หากต้องการเห็นผลที่แตกต่างเป็นอย่างอื่น ให้ลองเล่นกับข้อมูลในตารางดู เช่นการเพิ่มรายการ , การลดรายการ, และ / หรือ การเปลี่ยนยอดสต็อก ของบางรายการหรือทั้งหมด แล้วค่อยรันโค้ดดูใหม่อีกครั้ง
------- ศึกษา ศึกษา ศึกษา ถ้าเข้าใจ จะประยุกต์ต่อยอดได้มากกว่าที่เห็น ------
หัวข้อเดียวกันกระกระทู้นี้ บันทึก ณ วันนี้ 14:53 นาฬิกา
ตัวอย่าง เป็น mdb จาก access เวอร์ชั่น 2000 ( officeXP )
มีออปเจค
1 ตาราง (หลังการรันโค้ด จะมีเพิ่มมาอีก 1 เป็นตารางชั่วคราว)
1 คิวรี่แอ็คชั่น
1 รายงาน
1 โมดูล
- อย่าเปลี่ยนชื่อออบเจคใดๆ จนกว่าคุณจะมั่นใจว่า เข้าใจมันทั้งหมดแล้ว
- โครงสร้างตาราง หากตารางของคุณ มีชื่อฟิลด์ไม่เหมือนกันกับตัวอย่าง อาจต้องปรับแก้ไขหลายจุด ทั้งใน คิวรี่ โมดูล และ รายงาน
- โครงสร้างตาราง ที่สำคัญคือ รหัสสินค้า ต้องไม่ซ้ำกัน
- โครงสร้างคิวรี่ สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้เล็กน้อย (ได้ทำเผื่อไว้ให้แล้ว น่าจะประยุกต์ได้ง่าย)
- หน้าตารายงานปรับแต่งได้ตามสะดวก แต่เพื่อให้สัมพันธ์กันกับคิวรี่ ควรระมัดระวังเรื่องการอ้างอิงหากจะแก้ไข นิพจน์ใดๆ หรือคอนโทรลซอร์ส ใดๆ
- ทดสอบโปรแกรมได้ โดยเปิดโมดูลขึ้นมา >> วางเม้าส์พ้อยเตอร์ไว้ในบริเวณใดๆ ของฟังก์ชั่น แล้วกดปุ่ม F5 >> โปรแกรมจะทำงานหลายขั้นตอน อัตโนมัติทั้งหมด แล้วจะแสดงรายงานให้ดู (คุณอาจต้องย่อหน้าต่าง VBA เพื่อจะได้เห็นรายงาน)
- หากต้องการรันฟังก์ชั่นในโมดุลผ่านปุ่มคำสั่ง ให้สร้างปุ่มคำสั่งบนฟอร์ม แล้วฝั้งโค้ดไป 1 คำสั่ง ว่า
StockLimit
- หากต้องการเห็นผลที่แตกต่างเป็นอย่างอื่น ให้ลองเล่นกับข้อมูลในตารางดู เช่นการเพิ่มรายการ , การลดรายการ, และ / หรือ การเปลี่ยนยอดสต็อก ของบางรายการหรือทั้งหมด แล้วค่อยรันโค้ดดูใหม่อีกครั้ง
------- ศึกษา ศึกษา ศึกษา ถ้าเข้าใจ จะประยุกต์ต่อยอดได้มากกว่าที่เห็น ------
12 @R08173
ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ หนูลองทำแล้วได้ตามต้องการ แต่พอหนูลองแก้ไขจำนวนของสินค้าบางตัว ให้มีมากกว่าจำนวน สต๊อก เพราะเราไม่รู้ว่าของเข้ามาเท่าไหร่ ทำรายการรับสินค้าทุกตัวที่เข้ามา บางตัวก็มีจำนวนมาก คือมากกว่าจำนวนสต๊อก (สินค้าคงคลัง) เช่น สต๊อกเรากำหนดไว้ 500 แต่พอมาดู จำนวนสินค้ามีมากถึง 1000 หนูลองแก้ดูแล้ว ปรากฎว่ามีสินค้ามากกว่า 500 ค่ะ หรือว่าหนูเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ช่วยชี้แนะด้วยนะค่ะ (พอดีเป็นหวัดอะค่ะ ม฿นๆๆ)
ยังไงหนูก็ขอบพระคุณอาจารย์มาก ๆ เลยนะค่ะ
หนูพร
ยังไงหนูก็ขอบพระคุณอาจารย์มาก ๆ เลยนะค่ะ
หนูพร
13 @R08213
หนูลองทำแล้วค่ะยังได้ไม่ตรงกับที่หนูต้องการ ดูจากภาพคะ
คือหนูอยากให้ตัวเลขที่ช่อง After ในวงกลมสีแดง เท่ากับ 500 ค่ะ (หนูลองเปลี่ยนตัวเลข ของสินค้าในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ) ลองดูแล้วได้ค่าประมาณนั้นค่ะ แต่ก็ใกล้ความจริงแล้วค่ะ หนูต้องขอบคุณอาจารย์ มากๆ เลยนะค่ะ
คือหนูอยากให้ตัวเลขที่ช่อง After ในวงกลมสีแดง เท่ากับ 500 ค่ะ (หนูลองเปลี่ยนตัวเลข ของสินค้าในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ) ลองดูแล้วได้ค่าประมาณนั้นค่ะ แต่ก็ใกล้ความจริงแล้วค่ะ หนูต้องขอบคุณอาจารย์ มากๆ เลยนะค่ะ
14 @R08280
จากหัวข้อที่ [ R08213] จากรูป
จากรูป มีวิธีที่จะทำให้จำนวนสินค้าในวงกลม ได้เท่ากับจำนวนสินค้าคงคลังที่ 500 ตามต้องการ
1. หาผลรวมของสินค้าแต่ละกลุ่ม ในที่นี้กลุ่มที่ 1 เท่ากับ 3363
2.เอาจำนวนสินค้าคงคลัง (500) ไปเปรียบเทียบกับผลรวมของสินค้ากลุ่มที่ 1
โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ จะได้แบบนี้ ((500)*100)/3363 = 14.87 %
3.นำสินค้าในกลุ่ม มาคิด ที่ 14.87% ว่ามีจะนวนเท่าไหร่
----------------------------------------------------------------
สินค้ากลุ่มที่ 1 จำนวนสินค้า คิดที่ 14.87%
---------------------------------------------------------------
012 20 2.97 (20*14.87)/100
021 2500 371.75 (2500*14.87)/100
102 500 74.35 (500*14.87)/100
120 230 34.20 (230*14.87)/100
201 98 14.57 (98*14.87)/100
210 15 2.23 (15*14.87)/100
---------------------------------------------------------------
รวม 3363 500
----------------------------------------------------------------
4.จากตาราง (มองให้เป็นตารางนะครับ) จะเห็นว่าสินค้าในกลุ่มถูกตัดทุกตัวในปริมาณที่ 14.87% เท่า ๆ กัน นำแนวคิดนี้ไปเขียนเป็นโค๊ด หรือ โมดูล
ผมเขียนโค๊ดไม่เป็นครับ ต้องรบกวนอาจารย์ yeadram และอาจารย์ท่านอื่น ๆ ที่มีเวลา ช่วยในการเขียนโค๊ดให้นะครับ ผมคงช่วยได้แค่นี้นะครับ
จากรูป มีวิธีที่จะทำให้จำนวนสินค้าในวงกลม ได้เท่ากับจำนวนสินค้าคงคลังที่ 500 ตามต้องการ
1. หาผลรวมของสินค้าแต่ละกลุ่ม ในที่นี้กลุ่มที่ 1 เท่ากับ 3363
2.เอาจำนวนสินค้าคงคลัง (500) ไปเปรียบเทียบกับผลรวมของสินค้ากลุ่มที่ 1
โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ จะได้แบบนี้ ((500)*100)/3363 = 14.87 %
3.นำสินค้าในกลุ่ม มาคิด ที่ 14.87% ว่ามีจะนวนเท่าไหร่
----------------------------------------------------------------
สินค้ากลุ่มที่ 1 จำนวนสินค้า คิดที่ 14.87%
---------------------------------------------------------------
012 20 2.97 (20*14.87)/100
021 2500 371.75 (2500*14.87)/100
102 500 74.35 (500*14.87)/100
120 230 34.20 (230*14.87)/100
201 98 14.57 (98*14.87)/100
210 15 2.23 (15*14.87)/100
---------------------------------------------------------------
รวม 3363 500
----------------------------------------------------------------
4.จากตาราง (มองให้เป็นตารางนะครับ) จะเห็นว่าสินค้าในกลุ่มถูกตัดทุกตัวในปริมาณที่ 14.87% เท่า ๆ กัน นำแนวคิดนี้ไปเขียนเป็นโค๊ด หรือ โมดูล
ผมเขียนโค๊ดไม่เป็นครับ ต้องรบกวนอาจารย์ yeadram และอาจารย์ท่านอื่น ๆ ที่มีเวลา ช่วยในการเขียนโค๊ดให้นะครับ ผมคงช่วยได้แค่นี้นะครับ
15 @R08282
อาจารย์ค่ะ หนูงงมาก ตอนแรกหนูอ่านเจอที่อาจารย์เข้ามาตอบ (หนูจะนั่งเฝ้ารอคำตอบตลอด หน้าจอคอม ในวันที่หนูหยุดค่ะ) อย่างที่พี่ชายตอบก็ไม่ผิดค่ะ คือตัดได้ทุกตัว ขอให้สินค้าคงคลังเหลือเท่าที่เรากำหนดค่ะ และหนูได้ส่งไฟร์ที่หนูลองแก้ไข ไปที่เมล์ลกลางเรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบคุณอาจารย์มากนะค่ะที่ ช่วยเหลือ หนูจะไม่ลืมพระคุณเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ พร
16 @R08284
ผมตอบล่าสุด ดูเหมือนไม่รัดกุมพอ ก็เลยลบความเห็นล่าสุดของผมออก
ผมลองปรับแก้ไขจากไฟล์เดิม ด้วยการเปลี่ยนยอดสต็อกให้มากกว่า limit ดูแล้วพบว่า เป็นปัญหาอย่างที่คุณพร แจ้งจริง คือโด้ดของผมไม่ถี่ถ้วนเอง จึงนั่งพิจารณาแล้วเขียนใหม่ สรุปวิธีแก้ไขได้อย่างนี้ครับ
ในคิวรี่ ให้คุณพร แก้ SQL เป็น (มีแก้ไขการลำดับเล็กน้อย)
ส่วนในโมดูล หรือตัวฟังก์ชั่นนั้น ผมปรับแก้ไปหลายจุดพอสมควร ให้คุณพร ลบของเก่าทิ้งไปเลยก็ได้ครับ คัดลอกโค้ดนี้ไปวางในโมดูลทดแทนของเดิมครับ
ส่วนไฟล์ตัวอย่างที่คุณพรส่งกลับเข้ามา ผมขอไม่เปิดอ่านนะครับ
ผมลองปรับแก้ไขจากไฟล์เดิม ด้วยการเปลี่ยนยอดสต็อกให้มากกว่า limit ดูแล้วพบว่า เป็นปัญหาอย่างที่คุณพร แจ้งจริง คือโด้ดของผมไม่ถี่ถ้วนเอง จึงนั่งพิจารณาแล้วเขียนใหม่ สรุปวิธีแก้ไขได้อย่างนี้ครับ
ในคิวรี่ ให้คุณพร แก้ SQL เป็น (มีแก้ไขการลำดับเล็กน้อย)
SELECT tbl_stock.prod_code, tbl_stock.prod_cat, tbl_stock.prod_stock, 0 AS Prod_spend, "ชื่อสินค้า" AS prod_name, "ชื่อกลุ่มสินค้า" AS cat_name INTO tmpLimit
FROM tbl_stock
ORDER BY tbl_stock.prod_cat, tbl_stock.prod_stock;
ส่วนในโมดูล หรือตัวฟังก์ชั่นนั้น ผมปรับแก้ไปหลายจุดพอสมควร ให้คุณพร ลบของเก่าทิ้งไปเลยก็ได้ครับ คัดลอกโค้ดนี้ไปวางในโมดูลทดแทนของเดิมครับ
Function StockLimit()
Dim pCat As Long ' รหัสกลุ่ม ของสินค้านี้
Dim CntCat As Long ' จำนวนสินค้าทั้งหมด ของสินค้ากลุ่มนี้
Dim StkCat As Long ' จำนวนสต็อกทั้งหมด ของสินค้ากลุ่มนี้
Dim StkAvg As Long ' จำนวนเฉลี่ยที่ควรจะเหลือของสินค้ากลุ่มนี้
Dim StkLimit As Long ' จำนวนที่กำหนดให้คงเหลือ
Dim sq As String
Dim Rs As New ADODB.Recordset
DoCmd.SetWarnings False
'------------------------ โค้ดเดิม ไม่ต้องสร้างคิวรี่ไว้รอ -------------------
'sq = "SELECT tbl_stock.prod_code, tbl_stock.prod_cat, tbl_stock.prod_stock, 0 AS Prod_spend, " & _
"'ชื่อสินค้า' AS prod_name, 'ชื่อกลุ่มสินค้า' AS cat_name INTO tmpLimit" & _
" FROM tbl_stock" & _
" ORDER BY tbl_stock.prod_cat, tbl_stock.prod_stock;"
'DoCmd.RunSQL sq
' -------------------------- จบโค้ดเดิม --------------------------------------
' ---------- โค้ดใหม่ สร้างคิวรี่ qr_StkLimit ไว้รอ เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปประยุกต์ต่อ ------
DoCmd.OpenQuery "qr_StkLimit"
' ---------- จบส่วนโค้ดใหม่ -----------------------------------------------------------------------
DoCmd.SetWarnings True
StkLimit = 500
sq = "select * from tmpLimit;"
Rs.Open sq, CurrentProject.Connection, 1, 3
pCat = DMin("prod_cat", "tmplimit")
CntCat = DCount("prod_code", "tmplimit", "[prod_cat] = " & pCat)
StkCat = DSum("[prod_stock] - [prod_spend]", "tmplimit", "[prod_cat] = " & pCat)
StkAvg = StkLimit \ CntCat
Rs.MoveFirst
Do While Not Rs.EOF
If Rs("prod_cat") <> pCat Then
pCat = Rs("prod_cat")
CntCat = DCount("prod_code", "tmplimit", "[prod_cat] = " & pCat)
StkCat = DSum("[prod_stock] - [prod_spend]", "tmplimit", "[prod_cat] = " & pCat)
StkAvg = StkLimit \ CntCat
End If
If StkCat > StkLimit Then
If (Rs("Prod_stock") - Rs("Prod_spend")) > StkAvg Then
If (Rs("Prod_stock") - Rs("Prod_spend") - StkAvg) >= (StkCat - StkLimit) Then
Rs("Prod_spend") = Rs("Prod_spend") + (StkCat - StkLimit)
Else
Rs("Prod_spend") = Rs("Prod_spend") + (Rs("Prod_stock") - StkAvg)
End If
Else
If (Rs("Prod_stock") - Rs("Prod_spend")) >= (StkCat - StkLimit) Then
Rs("Prod_spend") = Rs("Prod_spend") + (StkCat - StkLimit)
Else
Rs("Prod_spend") = 0
End If
End If
Rs.Update
StkCat = StkCat - Rs("prod_spend")
End If
Rs.MoveNext
Loop
Rs.Close
Set Rs = Nothing
DoCmd.OpenReport "rp_STK_Limit", acViewPreview
End Function
ส่วนไฟล์ตัวอย่างที่คุณพรส่งกลับเข้ามา ผมขอไม่เปิดอ่านนะครับ
17 @R08292
ขอบคุณอาจารย์มากๆ เลยค่ะ ถ้าไม่ได้อาจารย์มาชี้แนะหนูคงแย่แน่ๆเลย ความรู้สึกตอนนี้เหมือนหนูตายแล้วเกิดใหม่ค่ะ ความหวังที่จะทำงาน พลังกลับมาค่ะ ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะ
พร
พร
18 @R08304
อาจารย์ค่ะหนูมีเรื่องจะรบกวนอาจารย์อีกค่ะ คือตอนนี้หนูจะทำตารางรับสินค้าขึ้นมาอันหนึ่ง แล้วกรอกข้อมูลผ่านฟอร์ม เป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้รวมค่ะ แล้วหนูก็สร้างคิวรี่ขึ้นมาให้โปรแกรม Sum ให้ หลังจากนั้นหนูก็ปริ้นข้อมูลที่รวมแล้วออกมา นำไปกรอกในตารางหลัก ที่มีกลุ่มสินค้า,ประเภทสินค้า,ระหัสสินค้า ,จำนวน ซึ่งดูแล้งยุ่งยากค่ะ สิ่งที่หนูต้องการคือ
1. กรอกสินค้าที่ตารางรับสินค้า แล้วให้ตารางหลักอัฟเดทข้อมูลจากคิวรี่รวมสินค้าโดยอัตโมมัติค่ะ
2.อาจารย์ค่ะ พอจะมีวิธีที่จะแก้ไข สินค้าคงคลัง [Stock Limit]ผ่านฟอร์ม หรือตาราง หรือเปล่าค่ะ เพราะบางครั้งหนูหยุด แล้วให้น้องๆที่บริษัททำแทนถ้าให้ไปแก้ที่โมดูล อาจไปลบข้อมูลในโมดูลบางส่วนทิ้ง (ด้วยความที่ไม่เข้าใจ พลาด) อาจทำให้โปรแกรมมีปัญหาได้ค่ะ
รบกวนอารย์ด้วยนะค่ะ และขอขอบพระคุณอาจารย์ล่วงหน้าค่ะ
หนูพร
1. กรอกสินค้าที่ตารางรับสินค้า แล้วให้ตารางหลักอัฟเดทข้อมูลจากคิวรี่รวมสินค้าโดยอัตโมมัติค่ะ
2.อาจารย์ค่ะ พอจะมีวิธีที่จะแก้ไข สินค้าคงคลัง [Stock Limit]ผ่านฟอร์ม หรือตาราง หรือเปล่าค่ะ เพราะบางครั้งหนูหยุด แล้วให้น้องๆที่บริษัททำแทนถ้าให้ไปแก้ที่โมดูล อาจไปลบข้อมูลในโมดูลบางส่วนทิ้ง (ด้วยความที่ไม่เข้าใจ พลาด) อาจทำให้โปรแกรมมีปัญหาได้ค่ะ
รบกวนอารย์ด้วยนะค่ะ และขอขอบพระคุณอาจารย์ล่วงหน้าค่ะ
หนูพร
19 @R08312
ใช้คิวรี่ซิครับ
มีวิซาร์ดช่วยสร้างครับ
แบบอัพเดตข้อมูลครับ (action query)
ลองทำดูครับ
สำรองข้อมูลเก่าไว้ก่อน หรือคัดลอกฐานข้อมูลมาลองทำลองเล่นดูครับ
ทำด้วยตัวเอง ค้นพบวิธีทำด้วยตัวเอง จะทำให้จำได้แม่นครับ
เพราะงานนี้มันไม่ยาก และไม่ซับซ้อนนัก จึงอยากให้ลองทำเองครับ
- สร้างคิวรี่เลือกข้อมูลที่ต้องการจากตารางต้นทาง (อาจจะมีการ sum ด้วยก็ได้)
- เลือกเปลี่ยนชนิดคิวรี่เป็น "ปรับปรุงข้อมูล"
- เลือกชื่อตารางปลายทางที่จะเอาข้อมูลไปใส่
- ตรวจสอบการจับคู่ของฟิลด์ต้นทาง และปลายทาง ดูชนิดข้อมูลตรงกันหรือไม่
- สั่งเซฟ หรือสั่งรัน คิวรี่
มีวิซาร์ดช่วยสร้างครับ
แบบอัพเดตข้อมูลครับ (action query)
ลองทำดูครับ
สำรองข้อมูลเก่าไว้ก่อน หรือคัดลอกฐานข้อมูลมาลองทำลองเล่นดูครับ
ทำด้วยตัวเอง ค้นพบวิธีทำด้วยตัวเอง จะทำให้จำได้แม่นครับ
เพราะงานนี้มันไม่ยาก และไม่ซับซ้อนนัก จึงอยากให้ลองทำเองครับ
- สร้างคิวรี่เลือกข้อมูลที่ต้องการจากตารางต้นทาง (อาจจะมีการ sum ด้วยก็ได้)
- เลือกเปลี่ยนชนิดคิวรี่เป็น "ปรับปรุงข้อมูล"
- เลือกชื่อตารางปลายทางที่จะเอาข้อมูลไปใส่
- ตรวจสอบการจับคู่ของฟิลด์ต้นทาง และปลายทาง ดูชนิดข้อมูลตรงกันหรือไม่
- สั่งเซฟ หรือสั่งรัน คิวรี่
20 @R08323
อาจารย์ค่ะหนูลองทำแล้วไม่สำเร็จค่ะ ปัญหาของหนูคือ
1.การสร้างคิวรี่เลือกข้อมูลแบบ อัฟเดทข้อมูล [action query] หนูหาไม่เจอค่ะหนูก็เลยสร้างแบบธรรมดา (เป็นคิวรี่ผลรวมของสินค้าแต่ละชนิดค่ะ) แล้วคลิกขวา ในมุมมองออกแบบแล้วเปลี่ยนเป็น update query แทน ( ตารางต้นทางของหนูคือตารางรับสินค้าค่ะ จะมีเฉพาะ prod_code และ prod_stock )
2.จะเลือกตารางปลายทางตรงไหนค่ะ หนู งง พอเปลี่ยนรูปแบบคิวรี่แล้ว มันก็จะปิดไปเองเลยค่ะ
3.ขั้นตอนตรวจสอบการจับคู่ก็ไม่รู้ว่าจอเข้าที่ตรงไหนค่ะ พยายามหาแล้วก็ไม่เจอค่ะ
หนูไม่รู้จะทำไงต่อดีค่ะ รบกวนอาจารย์และผู้รู้ ช่วยหน่อยนะค่ะ
ขอบคุณมาก ๆ นะค่ะ พร
1.การสร้างคิวรี่เลือกข้อมูลแบบ อัฟเดทข้อมูล [action query] หนูหาไม่เจอค่ะหนูก็เลยสร้างแบบธรรมดา (เป็นคิวรี่ผลรวมของสินค้าแต่ละชนิดค่ะ) แล้วคลิกขวา ในมุมมองออกแบบแล้วเปลี่ยนเป็น update query แทน ( ตารางต้นทางของหนูคือตารางรับสินค้าค่ะ จะมีเฉพาะ prod_code และ prod_stock )
2.จะเลือกตารางปลายทางตรงไหนค่ะ หนู งง พอเปลี่ยนรูปแบบคิวรี่แล้ว มันก็จะปิดไปเองเลยค่ะ
3.ขั้นตอนตรวจสอบการจับคู่ก็ไม่รู้ว่าจอเข้าที่ตรงไหนค่ะ พยายามหาแล้วก็ไม่เจอค่ะ
หนูไม่รู้จะทำไงต่อดีค่ะ รบกวนอาจารย์และผู้รู้ ช่วยหน่อยนะค่ะ
ขอบคุณมาก ๆ นะค่ะ พร
Time: 0.2631s
สินค้าในกลุ่มที่ว่าตัดเหลือ 500 นี่ เรามีเกณฑ์การตัดสินค้าแต่ละตัวยังไงครับ เพราะ สินค้าแต่ละตัวก็มีจำนวนคงเหลือไม่เท่ากัน