Object, Control, Textbox ต่างก็เป็น Data Type ใน Access แต่ตัวแปรของ Object จะกว้างๆ เมื่อสร้างตัวแปรขึ้นมาด้วย Dim ตัวมันเองไม่มีคุณสมบัติอะไรอยู่เลย จนกว่ามันจะถูกกำหนดว่ามันคืออะไร เช่น จากรูป เมื่อกำหนดโดยคำสั่ง Set O = GetObject("C:\Data\DrugList.xls") กลไกของ Access ก็จะกำหนดให้ obj เป็น workbook ของ DrugList.xls ซึ่งหลังจากนี้เราก็สามารถเขียนโค้ดเพื่อเรียกใช้ property และ method ต่างๆที่ตัวโปรแกรม Excel มีให้กับ workbook ได้
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเรากำลังพิมพ์คำสั่งในบรรทัดต่อๆไปว่า O. เราก็จะยังไม่เห็นว่ามันมี property หรือ method อะไรโผล่ขึ้นมาทั้งๆที่ได้กำหนดไปแล้ว ไม่เหมือนตัวแปร C ซึ่งเป็นตัวแปรประเภท Control ที่จะมี listbox แสดง property และ method ออกมาให้เห็น นั่นเพราะว่า Access จะรู้ว่า O คืออะไรก็ต่อเมื่อโค้ดได้ทำงานแล้ว แต่ขณะที่เรากำลังเขียนโค้ดอยู่ใน Editor นั้น โค้ดยังไม่ได้ทำงาน (ยกเว้นว่าเรากำลังอยู่ในโหมด Debug) ดังนั้น Access จะไม่มีทางรู้เลยว่ามันคืออะไร ก็เลยไม่สามารถแสดง listbox นั้นออกมาให้เราเห็น
Object ต่างกับ Control และ Textbox ตรงที่สองตัวหลังนั้นเป็น object ที่อยู่ในตัว Access เองอยู่แล้ว มันย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่ามี property และ method อะไรอยู่บ้างโดยไม่ต้องไปผูกว่า Control หรือ Textbox นี้คือตัว "อะไร" บนฟอร์ม/รายงานตัวนั้น (แต่การที่รู้อยู่แล้ว ไม่ได้หมายความว่าเราจะเรียกใช้ property และ method ก่อนการผูกกับ "อะไร", ด้วยคำสั่ง Set, โดยไม่เกิด error message เพราะมันขึ้นกับว่า property และ method นั้นๆเกี่ยวข้องกับ "อะไร" ที่ Access ต้องรู้ว่ามีอยู่จริงๆก่อนหรือไม่ เช่น ชื่อของ Control หรือ Textbox เป็นต้น)
สรุปว่าเราจะใช้ Object ก็ต่อเมื่อเราต้องการผูก Object นั้นกับ "อะไร" นอกตัว Access เพื่อใช้งาน "อะไร" ตัวนั้น
ส่วน Control ก็คือองค์ประกอบต่างๆบนฟอร์ม/รายงาน เช่น Textbox, Line, Section เป็นต้น มันมี property และ method รวมๆที่องค์ประกอบต่างๆมีเหมือนๆกัน ซึ่งก็มีไม่เท่าไหร่
สุดท้าย Textbox ก็เป็น Object ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับเท็กซ์บ็อกซ์ไปเลย มี property และ method เฉพาะ Textbox เท่านั้นครับ เราไม่ค่อยกำหนดตัวแปรของ Textbox เท่าไหร่ เพราะมักอ้างถึง Textbox นั้นได้โดยตรงอยู่แล้ว