กระทู้เก่าบอร์ด อ.สุภาพ ไชยา
362 1
URL.หัวข้อ /
URL
การเรียนภาษาอังกฤษในแนวใหม่
เรียน คุณเก่งทราบ
เพิ่งเห็นชื่อเว็บนี้จากพันทิพย์ ก็เลยแวะมาให้กำลังใจ และเรียนให้ทราบว่า ผมกำลังเริ่มทำหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ในแนวใหม่อยู่ครับ บางทีเราอาจจะมีแนวทางที่คล้ายกันก็เป็นได้
ผมแสดงความเห็นไว้ในห้องมองอดีต และข้อความส่วนที่ต่อจากนี้คือข้อความที่คัดลอกมาจากกระทู้ดังกล่าวครับ
สำหรับแนวความคิดเรื่องการสอนภาษาอังกฤษแนวใหม่ (ความจริงไม่ใหม่หรอกครับ) เป็นแนวทางที่ท่านผู้รู้และมีความคิดทางนี้นานแล้ว เพียงแต่จังหวะเวลา โอกาส และไม่มีอำนาจที่จะทำเช่นนั้นได้ จึงได้เก็บแนวคิดนี้ไว้ และนำออกแสดงเฉพาะคนที่ใกล้ชิด และทดลองกันดูเมื่อประมาณปี 2525 กับผู้เรียน 6 คน ซึ่งผมคือ 1 ในจำนวนนั้น ผลที่ได้รับเราก็ได้เห็นกันเองในกลุ่มคนเล็ก ๆ กลุ่มนั้น และได้แต่เฝ้ารอว่า เมื่อใดมีโอกาสที่เหมาะสมเราจึงจะนำออกมาเผยแพร่กัน จนกระทั่งท่านเจ้าของตำหรับนี้ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว (ถ้าเคยจำได้เคยมีโรงเรียนประชาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี เด็กพูดกันได้ทั้งโรงเรียน จนผู้ตรวจหรือนิเทศน์ศึกษา ไม่กล้าเข้าไปคุยกับเด็กด้วย กลัวพลาด ฮิฮิ แต่แล้วเรื่องดี ๆ แบบนี้ก็ถูกยุบไป ขาดการส่งเสริมต่อ จนต้องหยุดตัวเองไป ด้วยเหตุผลที่ว่า "ไม่มีในหลักสูตร" อยากจะหัวเราะเป็นภาษาอังกฤษ จริง ๆ)
เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวจากกระทรวงศึกษา ที่สามารถให้แต่ละโรงเรียนหรือแต่ละท้องถิ่น จัดการศึกษาได้ตามความเหมาะสมในแต่ละท้องที่ หรือสังคมของแหล่งนั้น ๆ ผมเห็นว่าเป็นโอกาส ที่เราจะนำวิธีการแบบนั้นมาใช้ โดยการปรับปรุงเพื่อให้เข้ากับปัจจุบัน และผมก็โอกาสที่จะทำเรื่องนี้ได้ แต่เป็นการภายใน โดยถือว่าเป็นการทดลอง โดยเริ่มที่ครูก่อน
หลักเริ่มต้นแห่งความคิดมีอยู่ว่า
"เด็กไทย พูดไทยได้เองตามธรรมชาติ เมื่อเข้าโรงเรียน ก็เริ่มเรียนภาษาไทยที่ไวยากรณ์ ถูกต้อง"
"เด็กอังกฤษ พูดอังกฤษได้ตามธรรมชาติ เมื่อเข้าโรงเรียน ก็เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ที่ไวยากรณ์ ถูกต้อง"
แต่ของเราลอกมาจาก Oxford เราก็มาเริ่มเด็กของเราที่ ไวยากรณ์ เช่นกัน ผลที่ได้ก็คือ อย่างที่ทุกคนได้เห็นว่า เด็กไทยจะเก่งไวยากรณ์มากกว่าเด็กฝรั่ง แต่พูดได้น้อยมาก ไม่อาจสื่อสารได้ ต้องอาศัยการฝึกฝนเฉพาะการพูดและการฟังอีกระยะหนึ่ง จึงจะเริ่มพอใช้ได้
หลักสูตรที่เรากำลังทดลองอยู่นี้ เราไม่เรียนไวยากรณ์ แต่จะแทรกเข้าไปเป็นระยะ ๆ โดยอาจใช้วิธีโบราณสักหน่อยคือเริ่มด้วยการท่องจำ และพูดบ่อย ๆ ให้ชินปาก
หัดฟังบ่อย ๆ ให้ชินหู และก็ค่อย ๆ ดำเนินไป
สำหรับการเรียนเรื่อง Tense ให้ใช้เทียบเคียงกับภาษาไทยและภาษาบาลี (คนไทยจะชินกับคำบาลีโดยไม่รู้ตัวกันมากกว่าภาษาอังกฤษ) โดยไม่ท่องแต่ให้เปลี่ยนคำเอาเมื่อเราจะพูดในประโยคนั้น และนำหลักมาอธิบายในภายหลัง
เวลานี้ก็ค่อย ๆ เริ่มไป อาจใช้เวลาบ้าง เพราะเป็นเรื่องและวิธีการที่ใหม่ ทั้งผู้สอนและผู้เรียน
ใครจะช่วยผมบ้างครับ
เพิ่งเห็นชื่อเว็บนี้จากพันทิพย์ ก็เลยแวะมาให้กำลังใจ และเรียนให้ทราบว่า ผมกำลังเริ่มทำหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ในแนวใหม่อยู่ครับ บางทีเราอาจจะมีแนวทางที่คล้ายกันก็เป็นได้
ผมแสดงความเห็นไว้ในห้องมองอดีต และข้อความส่วนที่ต่อจากนี้คือข้อความที่คัดลอกมาจากกระทู้ดังกล่าวครับ
สำหรับแนวความคิดเรื่องการสอนภาษาอังกฤษแนวใหม่ (ความจริงไม่ใหม่หรอกครับ) เป็นแนวทางที่ท่านผู้รู้และมีความคิดทางนี้นานแล้ว เพียงแต่จังหวะเวลา โอกาส และไม่มีอำนาจที่จะทำเช่นนั้นได้ จึงได้เก็บแนวคิดนี้ไว้ และนำออกแสดงเฉพาะคนที่ใกล้ชิด และทดลองกันดูเมื่อประมาณปี 2525 กับผู้เรียน 6 คน ซึ่งผมคือ 1 ในจำนวนนั้น ผลที่ได้รับเราก็ได้เห็นกันเองในกลุ่มคนเล็ก ๆ กลุ่มนั้น และได้แต่เฝ้ารอว่า เมื่อใดมีโอกาสที่เหมาะสมเราจึงจะนำออกมาเผยแพร่กัน จนกระทั่งท่านเจ้าของตำหรับนี้ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว (ถ้าเคยจำได้เคยมีโรงเรียนประชาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี เด็กพูดกันได้ทั้งโรงเรียน จนผู้ตรวจหรือนิเทศน์ศึกษา ไม่กล้าเข้าไปคุยกับเด็กด้วย กลัวพลาด ฮิฮิ แต่แล้วเรื่องดี ๆ แบบนี้ก็ถูกยุบไป ขาดการส่งเสริมต่อ จนต้องหยุดตัวเองไป ด้วยเหตุผลที่ว่า "ไม่มีในหลักสูตร" อยากจะหัวเราะเป็นภาษาอังกฤษ จริง ๆ)
เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวจากกระทรวงศึกษา ที่สามารถให้แต่ละโรงเรียนหรือแต่ละท้องถิ่น จัดการศึกษาได้ตามความเหมาะสมในแต่ละท้องที่ หรือสังคมของแหล่งนั้น ๆ ผมเห็นว่าเป็นโอกาส ที่เราจะนำวิธีการแบบนั้นมาใช้ โดยการปรับปรุงเพื่อให้เข้ากับปัจจุบัน และผมก็โอกาสที่จะทำเรื่องนี้ได้ แต่เป็นการภายใน โดยถือว่าเป็นการทดลอง โดยเริ่มที่ครูก่อน
หลักเริ่มต้นแห่งความคิดมีอยู่ว่า
"เด็กไทย พูดไทยได้เองตามธรรมชาติ เมื่อเข้าโรงเรียน ก็เริ่มเรียนภาษาไทยที่ไวยากรณ์ ถูกต้อง"
"เด็กอังกฤษ พูดอังกฤษได้ตามธรรมชาติ เมื่อเข้าโรงเรียน ก็เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ที่ไวยากรณ์ ถูกต้อง"
แต่ของเราลอกมาจาก Oxford เราก็มาเริ่มเด็กของเราที่ ไวยากรณ์ เช่นกัน ผลที่ได้ก็คือ อย่างที่ทุกคนได้เห็นว่า เด็กไทยจะเก่งไวยากรณ์มากกว่าเด็กฝรั่ง แต่พูดได้น้อยมาก ไม่อาจสื่อสารได้ ต้องอาศัยการฝึกฝนเฉพาะการพูดและการฟังอีกระยะหนึ่ง จึงจะเริ่มพอใช้ได้
หลักสูตรที่เรากำลังทดลองอยู่นี้ เราไม่เรียนไวยากรณ์ แต่จะแทรกเข้าไปเป็นระยะ ๆ โดยอาจใช้วิธีโบราณสักหน่อยคือเริ่มด้วยการท่องจำ และพูดบ่อย ๆ ให้ชินปาก
หัดฟังบ่อย ๆ ให้ชินหู และก็ค่อย ๆ ดำเนินไป
สำหรับการเรียนเรื่อง Tense ให้ใช้เทียบเคียงกับภาษาไทยและภาษาบาลี (คนไทยจะชินกับคำบาลีโดยไม่รู้ตัวกันมากกว่าภาษาอังกฤษ) โดยไม่ท่องแต่ให้เปลี่ยนคำเอาเมื่อเราจะพูดในประโยคนั้น และนำหลักมาอธิบายในภายหลัง
เวลานี้ก็ค่อย ๆ เริ่มไป อาจใช้เวลาบ้าง เพราะเป็นเรื่องและวิธีการที่ใหม่ ทั้งผู้สอนและผู้เรียน
ใครจะช่วยผมบ้างครับ
1 Reply in this Topic. Dispaly 1 pages and you are on page number 1
1 @R00003
ขอบคุณครับที่มาเยี่ยมที่นี่
ผมเองก็ยินดีที่จะแลกเปลี่ยนความรุ้ด้านนี้กับทุกคนครับ
ผมเห็นด้วยกับคุณที่ว่า เด็กฝรั่งพูดได้ก่อนที่จะอ่านออกเขียนได้
แต่เราต้องเริ่มเป็นตัวอย่างให้เด็กไทยของเราด้วย ผมสังเกตเห็นกับลูกชายของผมเอง ผมสอนให้เขาพูดตัว L โดยให้ออกเสียงเป็น "เอ็ล" เด็กก็ออกได้และจำได้ด้วย แต่พอไปโรงเรียน ครูกลับบอกให้ออกเสียงเป็น แอล ทำให้เด็กสับสน และมักจะเชื่อครูมากกว่า เราคงจะต้องให้ผู้ใหญ่ค่อยๆ เปลี่ยนการออกเสียงให้ถูกต้องก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าคนไทยจะต้องออกเสียงภาษาอังกฤษ ขอให้ออกให้ถูกต้อง ไม่งั้นก็ไม่ต้องออกเลย ให้หาคำภาษาไทยแทน
เดี๋ยวผมจะเขียนเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกที
อย่าลืมแวะเข้ามาแลกเปลี่ยนอีกนะครับ
โดย : สุภาพ [14 ส.ค. 2543 , 13:16:19 น.]
Time: 0.1064s