เนื่องจากคุณไม่ยอมบอกว่าคอมไพล์ไม่ได้ แล้วมันแสดงรหัสผิดพลาดเป็นอะไร ผมก็ขอเดาว่า สิ่งที่เป็นไปได้ก็คือ

- คำว่า GenBalAmt เขียนตรงไหนผิดหรือเปล่า ลองเปลี่ยนก็ได้ครับ เป็นคำว่า xxx ก็ได้ครับ ถ้ายังไม่ผ่าน ก็แปลว่าไม่ใช่ปัญหาที่ชื่อนี้

- ก็เหลือที่เดียวคือ ID_Member มันเป็น numeric หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ต้องไปเปลี่ยน Private Sub GenBalAmt(MemberCode As String) เป็น Private Sub GenBalAmt(MemberCode As อะไรก็ว่าไป) อีกอย่างก็ ชื่อนี้ไม่ถูกต้องหรือเปล่า มันต้องเป็นชื่อคอนโทรลบนฟอร์ม ไม่ใช่ชื่อฟิลด์นะครับ

ดูในเมล์แล้ว Private Sub GenBalAmt(MemberCode As String) ส่วนสีนำ้เงินนี้คุณไม่ใส่ครับ แล้วเปลี่ยนจาก MemberCode เป็น ID_Member ด้วยนะครับ

อาจารย์ครับ มันก็ยัง Error 3265:Item not found in this collection

อาจารย์ครับมันยัง Error 3265:Item not found in this collection

มันยัง Error 3265:Item not found in this collection
ครับอาจารย์

มันยัง Error 3265:Item not found in this collection
ครับอาจารย์

บรรทัด Set RS = DB.Recordsets(SQL) ผมเขียนผิด ให้เปลี่ยนเป็น Set RS = DB.OpenRecordset(SQL)

แล้วข้อมูลของคุณ ให้อ่าน RS เรียงตาม depositAcc (จาก order by depositAcc) ผมว่ามันจะแปลกหรือไม่ เพราะมันจะคำนวนรายการฝากทั้งหมดก่อน (เข้าใจว่าอย่างนั้น) แล้วค่อยไปคำนวนรายการถอนทีหลัง นอกจากนี้ยังไม่ได้กำหนดวันที่ให้เป็นฟิลด์ที่ใช้เรียงข้อมูล ดังนั้น รายการฝากหรือถอนที่อ่านมา ก็จะเรียงไม่แน่นอน แล้วแต่มันเจอรายการไหนก่อน
(ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นรายการที่ป้อนก่อน) มันก็จะคำนวนก่อน วันหลังถ้าทำรายงานเพื่อดูรายการฝาก-ถอน จะเห็นยอดคงเหลือประหลาดเหมือนไม่เป็นไปตามจริงนะครับ

ถ้าจะกำหนดให้เรียงตามอะไร ก็ไปใส่หลัง order by ได้ครับ มีหลายฟิลด์ก็คั่นด้วย comma ครับ

ผลที่ได้มันไม่ตรงกับความต้องการเลยครับ

ข้อมูลคงเหลือมันไม่ได้แก้ที่เรคคอดสุดท้ายครับ มันแก้ทั้งหมด ตรงเรียงลำดับ ผมลองเรียงแล้วก็ยิ่งผิดมากกว่าเดิมอีกครับ ลองแก้ตรง SQL โดยเอาไปเปิดใน Query แล้วเอาเข้ามาใส่ใหม่มันก็ Error
ที่ถูกน่าจะเริ่มจาก กรองคนอันดับแรก แล้ว เรียงวันที่น้อยไปมาก แล้วฟิลด์คงเหลือ ก็ต้อง เท่ากับยอดยกมา(คงเหลือสุดท้าย)+ฝาก-ถอน
ซึ่งดูในสูตรของอาจารย์มันก็ถูก แต่บางบรรทัดผมไม่เข้าใจ เลยประยุคไม่ได้ครับ

ใช่ครับโค้ดที่ให้ไป เป็นการคำนวนยอดคงเหลือใหม่ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มเพราะถ้าคุณแก้ไขหรือลบรายการฝาก-ถอนก่อนรายการสุดท้าย แต่โค้ดคำนวนเฉพาะยอดคงเหลือสุดท้าย มันก็จะผิด

ถ้าเรียงวันที่จากน้อยไปมาก ก็ต้องเป็น order by depositDate แต่มีคำถามว่า ในวันเดียวกัน สามารถฝากถอนได้มากกว่า 1 ครั้งหรือไม่ ถ้าได้ มีฟิลด์อะไรเป็นตัวบอกลำดับว่ารายการไหนเกิดก่อนหลัง เราก็ใช้ฟิลด์นั้นเพิ่มเข้าไป ก็จะเป็น

order by depositDate , ฟิลด์บอกลำดับ

ด้วยความที่ไม่เข้าใจโคตบางตัว ก็นึกสงสัย ที่อาจจารย์ให้แก้ที่ ORDER BY
ซึ่งผมก็คิดว่า การเรียงลำดับมันจะทำให้การบวก ลบ ถูกได้ยังงัย ก็เลยเสียเวลา ลองผิดลองถูก แก้อยู่ทั้งวัน จนหมดปัญญา เลยลองมาลองดูตามที่อาจารย์บอก ดีว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
ผมเอาฟิลด์ ไอดีซึ่งเป็น Autorun number ยังงัยมันก็เรียงจากน้อยไปมากอยู่แล้ว ผมออกมา ตามที่ต้องการเป๊ะ ขอขอบคุณอาจารย์สันติสุขมากๆ ครับ

ผมขอถามจากบทเรียนนี้อีกหน่อยนะครับ ตรง
Call GenBalAmt(Me.ID_member) กับ Call GenBalAmt มันต่างกันยังงัย
แล้วในวงเล็บคืออะไรครับ
Private Sub GenBalAmt(ID_member As String) อันนี้อีกเราใส่ในวงเล็บหมายถึงอะไรครับ

Sub Procedure ที่ชื่อ GenBalAmt เรากำหนดให้มีการส่งค่าจากโปรแกรมที่มาเรียก Procedure นี้ โดยจะส่งเข้าไปในตัวแปรชื่อว่า ID_Member ซึ่งมีประเภทข้อมูลเป็น String ก็เลยได้ออกมาเป็น Private Sub GenBalAmt(ID_member As String)   ถ้าเราออกแบบไว้ว่าไม่ต้องมีค่าที่ส่งเข้า Procedure มันก็จะกลายเป็น Private Sub GenBalAmt( )

เวลาเรียกใช้ Procedure โดยพื้นฐานแล้ว ก็ต้องมีการส่งค่าเข้าไปตามจำนวนที่กำหนดใน Procedure นั้นๆ ก็เลยได้ออกมาเป็น Call GenBalAmt(Me.ID_member) ซึ่งหมายถึงเราส่งค่าของ Me.ID_member เข้าไปใน Procedure แต่ถ้ากำหนดไว้ว่าไม่ต้องส่งอะไรเข้าไปใน Procedure ก็จะใช้แค่ Call GenBalAmt( ) ครับ

โปรดจำไว้ว่า ข้อมูลที่เราป้อนเข้าไปนั้น เมื่อเรียกออกมาใช้งานโดยที่ไม่กำหนด order by มันไม่จำเป็นที่จะเรียงเรคอร์ดตามลำดับตามที่ป้อนก่อนหลัง หรือเรียงตาม Primary Key หรือ Key อื่นๆอะไรก็ตาม แต่ในการคำนวนยอดคงเหลือให้ถูกต้องนั้น เราต้องการเรียงลำดับของรายการที่ถูกต้องด้วย จึงจำเป็นต้องมี order by และถ้าคุณจะเอาข้อมูลฝาก-ถอนนี้ไปแสดงไม่ว่าจะบนฟอร์มหรือออกรายงาน ก็อย่าลืมต้องกำหนด order by ให้มันด้วยครับ

ขอบคุณอาจารย์ สันติสุขมากๆ ครับ