ทำ query stock card หลายๆรหัสยังไง
กระทู้เก่าบอร์ด อ.Yeadram

 9,449   15
URL.หัวข้อ / URL
ทำ query stock card หลายๆรหัสยังไง

ผมมี data ที่เก็บ transaction อยู่ tabel เดียว ดังนี้
--------------------------------------
วันที่        รหัส               รับเข้า    จ่ายออก
---------------------------------------------
1/2/2010 A-001                        10
3/2/2010 A-001                                          5
15/2/2010 A-001                      12
16/2/2010 A-001                                        7
...   
เก็บไปเรื่อยๆจนถึงปัจจะบัน

สมมุติ ผมจะสั่งให้แสดงเฉพาะรหัสสินค้า A-001 ถึง A-010 และแสดงเฉพาะวันที่ 1/10/2010 ถึง 31/10/2010
ผมจะสร้าง query ของ stock card แบบนี้ยังไงครับ


รหัสสินค้า A-001
----------------------------------------------------------------
วันที่                      รับ              จ่าย               คงเหลือ
-------------------------------------------------------------------------
ยอดยกมา 30/9/2010                                             151
(ซึ่งต้องรวมข้อมูลที่เก็บมาตั้งแต่ต้นปีถึง30/9/2010)
1/10/2010                   10                                                    161
1/10/2010                                               5                          156
2/10/2010                                               6                          150
....
31/10/2010                                             XX                         XXX
------------------------------------------------------------------------------
                                    XXX                  XXX
-----------------------------------------------------------
ต่อมาเป็นรหัส A-002 แสดงแบบเดียวกันจนถึงรหัส A-010 ถ้ารหัสไหนไม่มี Transaction ก็ให้ แสดงเฉพาะยอดยกมาอย่างเดียว

เวลา query ผมทำเป็นแต่รายการเฉพาะวันที่ 1/10 - 31/10 แต่ผมไม่รู้วิธีหายอดยกมาของแต่ละรหัสยังไง

นอกจากนี้ผมไปเจอตัวอย่างการสร้าง query ให้เป็นแบบ BOM (Bill of material) ที่ www.mvps.org/access/queries/qry0023.htm ยังไงลองไปศึกษากันดูนะครับ เจ๋งดี
ถ้าใครมีวิธีดีๆ ส่งต่อมาบอกกันบ้างนะครับ

15 Reply in this Topic. Dispaly 1 pages and you are on page number 1

1 @R06998
อยากตอบ แต่รอท่านอื่นก่อนนะครับ
2 @R06999
3 @R07004
คุณ U&ME ตอบมาเลยครับ หายไปนานเลยนะครับ
4 @R07005
ถึงคุณ yeadram ที่ post มาให้มี file ตัวอย่างอยู่ ผมลองโหลดมาแล้ว ในนั้นมีแต่ตัวอย่างที่เป็นแต่ยอดสต็อกคงเหลืออย่างเดียว ที่ผมต้องการคือเป็นรายละเอียดว่ายอดรวมที่รวมกันนั้นมาจากอะไรบวกลบกันอย่างไร ฯลฯ

และตามความเข้าใจขอบผมคือ
ส่วนที่หนึ่ง ให้ทำคิวรีหายอดรวมของทุกรหัส แยกกลุ่มตามรหัสสินค้า โดยเอาเฉพาะข้อมูลก่อนวันที่ต้องการเพื่อนำมาทำยอดยกมา
ส่วนที่สอง แสดงข้อมูลตั้งแต่วันที่กำหนดโดยไม่ต้องสั่ง Groupby พร้อมกับดึงยอดยกมามาพ่วงด้วย แต่ตรงนี้ปัญหาของผมคือ ฟิลด์ที่เป็นยอดยกมาจะแสดงยังไง แล้ว ที่ฟิลด์ยอดคงเหลือ จะต้องมาจากยอดยกมาของบรรทัดก่อน + ยอดรับเข้าบรรทัดปัจจุบัน + ยอดจ่ายออกบรรทัดปัจจุบัน ตรงนี้ผมจะเขียนในคิวรียังไง

ปัญหาต่อมา ถ้าข้อมูลผมเก็บไปเรื่อยอาจจะเกิน 5 ปี หรือข้อมูลมีถึงหลัก 1,000,000 เรคคอร์ด เวลาจะsum ข้อมูลแต่ละตัวจะกินเวลานานแค่ไหนครับ อันนี้ผมยังไม่ได้ลองเพราะไม่รู้จะสร้างข้อมูลเทียมให้เยอะๆยังไง

ต่อมาผมข้ามไปถึงระบบของธนาคารเลยนะครับ สมมตุวันนี้ผมนำเงินไปฝากในธนาคาร หมายความว่ามีต้องมี table เพื่อเก็บ transaction ไว้ 1 เรคคอร์ด หลังจากนั้นพอจบเดือนก็จะมี statement มาให้ว่าทำ transaction อะไรบ้าง เพราะฉะนั้นในระบบธนาคารก็จะต้องเฉพาะข้อมูลที่เป็น transaction อาจจะเป็นล้านเรคคอร์ดต่อวันหรือเปล่าครับ อันนี้ไม่รู้ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ ต่อมาถ้าผมจะหายอดรวมของเงินฝากปัจจุบันของผมก็หมายความว่า จะต้อง sum(transsaction) ในบัญชีของผมตั้งแต่เปิดบัญชีมาเพื่อดูว่าปัจจะบันมียอดเงินฝากเหลืออยู่เท่าไร อันนี้ถูกต้องไหมครับ
รบกวนล่วงหน้าเลยนะครับ และขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
5 @R07006
ระบบบัญชีจะมีการตัดรอบบัญชี ซึ่งรอบบัญชี อาจจะเป็นรอบละเดือนแล้วปิดงบ
หรือรอบละปีแล้วปิดงบ

การปิดงบคือจุดสรุป ซึ่งจะมีการบันทึกยอดคงเหลือ ดังนั้นไม่มีการ sum ข้อมูลข้ามปีเด็ดขาด การประมวลผล ก็จะไม่เป็นภาระเกินไป

แต่ถ้าระบบของคุณไม่มีการตัดรอบบัญชี ความกังวลของคุณก็มีเหตุผลอย่างมากๆ เลยครับ

จริงๆ แล้วระบบการทำสต็อกสามารถทำได้หลายอย่าง
ถ้าคุณไม่มีการตัดรอบ ก็คงต้องสร้างฟิลด์เก็บยอดคงเหลือแล้วครับ ผมแนะนำให้เก็บเป็นรายเดือน โดยแยกตารางเป็นตารางละ 1 ปี เช่น
tbStockCut2009
tbStockCut2010
tbStockCut2011

แต่ละตารางมี 13ฟิลด์
ฟิลด์ที่ 1 รหัสสินค้า
ฟิลด์ที่ 2 m_01 (เดือนมกราคม)
ฟิลด์ที่ 3 m_02 (เดือนกุมภาพันธ์)
....

ให้คุณ อัพเดตข้อมูล มันทุกๆ เดือน ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับคุณ
ถ้าคุณมีโครงสร้างตารางคร่าวๆ แบบดังกล่าวข้างต้นนี้ ก็จะเป็นเหมือนกับว่าคุณได้สร้างระบบ "รอบบัญชี" ขึ้นมาแล้ว

การใช้งาน
หากต้องการหา StockCard ก็กระทำได้ง่ายๆ (ขอแนะนำในการเรียกข้อมูลแต่ละครั้ง ควรใช้ Between ระยะสั้นๆ เช่น ไม่เกิน 1 เดือน)
หลักการที่จะแนะนำมี 2 วิธีหลักๆ คือ
1 การใช้ Union Query
2 การสร้างตาราง Temporary

คุณต้องใช้ข้อมูลสามส่วนมาต่อกัน แล้วค่อยนำไปออกรายงาน
1 dlookup เอาค่า stock เดือนสุดท้ายก่อนจะถึงวันเริ่มต้นเรียกรายงาน
2 sum ยอดตั้งแต่ วันที่ หลังข้อ 1 มาจนถึง วันที่ก่อนวันเริ่มต้นรายงาน
นำข้อมูลในข้อ 1 กับข้อ 2 มารวมกัน คุณจะได้ "ยอดยกมา" ก่อนรายงาน
3 เรียงข้อมูลส่วนที่จะแสดงผล

เราตั้งรูปแบบโครงสร้างของยูเนี่ยคิวรี่ผลสำเร็จ หรือตารางชั่วคราวไว้ว่าจะให้แสดงผลเป็น 5ฟิลด์ดังนี้
report_Line autonumber ใช้เพื่อให้รายงานเรียงลำดับเอายอดยกมาขึ้นก่อนรายการเคลื่อนไหวอื่นๆ
stkDate text ใช้แสดงผลวันที่และคำว่า ยอดยกมา
stkCode text   ใช้แสดงผลรหัสสินค้า
stk_In     number ใช้แสดงผลยอดขาเข้า
stk_out   number ใช้แสดงผลยอดขาออก
stk_total number ใช้แสดงผลยอดคงเหลือ

การใช้ Union query ดูเหมือนจะไม่เห??าะกับงานของคุณซึ่งมีข้อมูลเยอะ ดังนั้นควรใช้การสร้างตารางพัก แล้ว insert ข้อมูลเข้าไป ก่อนจะรันรายงานดีกว่าครับ

-เอาโครงสร้างของตารางพัก ไปออกแบบรายงาน
-เขียนโค้ดในเหตุการณ์ เมื่อเปิดของรายงาน

sub report_open
-1 สั่งล้างข้อมูลในตารางพัก
-2 สั่งให้ user กรอกข้อมูล รับค่า วันที่เริ่มต้น และวันที่สิ้นสุด
-3 นำวันที่ดังกล่าวมาวิเคราะห์หาเดือนเริ่มต้น
-4 select ข้อมูลสองส่วนมามาบวกกัน แล้วนำเข้าตารางพัก จะได้สินค้ารหัสละ 1บรรทัดพร้อมยอดยกมา (ตอน insert ไม่ต้องระบุข้อมูลให้ฟิลด์ autonumber) (ใช้เวลาไม่น่าเกิน 1วินาที่ ต่อสินค้า 10รายการ)
-5 select ข้อมูลของช่วงวันที่ ตาม ข้อ -3 ไปใส่ในตารางพักอีกครั้ง เรียงข้อมูลให้ดี และไม่ต้องระบุข้อมูลให้ฟิลด์ autonumber ขั้นนี้ใช้เวลาก็ไม่น่าเกิน 1 วินาที่ต่อเรคคอร์ด 10 เรคคอร์ด)
-6 สั่งเปลี่ยน source ของรายงานอีกครั้งก่อนจะรัน me.recordsource = ชื่อตารางพัก
end sub

ลองดูครับ
ถ้ายังไม่ได้หรือยังตามไม่ทัน ลองส่งตัวอย่างข้อมูลมา สัก 50-100รายการมาก็ได้ครับ เอามาแค่ตารางเดียวเลย จะทำเป็นตัวอย่างให้ดูครับ บางทีไม่แน่ใจว่าอ่านแล้วคิดตามทันหรือไม่ทัน หรือคิดไปในแนวทางเดียวกันหรือเปล่า มันทำให้ต้องอธิบายยืดเยื้อครับ สรุปว่าไม่สะดวก อธิบายอย่างเดียว มันต้องเป็นการไหลของงาน หรือตัวอย่างจะเข้าใจได้ตรงกันมากกว่าครับ

ถ้าแน่ใจว่า รายการมีเยอะมากๆ ก็จะหาวิธีเพื่อเพิ่มความเร็วในการประมวลผลให้มากที่สุดครับ
6 @R07007
พอจะเข้าใจครึ่งหนึ่งครับ ขอให้ผมลองปฏิบัติก่อนนะครับ อาจจะตั้งกระทู้ถามใหม่อีกทีนะครับ
7 @R07008
U&ME ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ ยังเฝ้าดูอยู่ทุกโมงยาม
-------------------------------------
อ่านกระทู้ถามแล้ว บางทีผมรู้ว่ามีหลายท่านได้ตอบคำถามแนวนั้นไว้เยอะมากแล้ว
จะให้ตอบอีกก็ขี้เกียจ (ในใจก็เซ็งที่ผู้ถามไม่ลองหาข้อมูลหรือกระทู้เก่า ๆ) พูดง่าย ๆ ก็คือ "วก-วน" อยากเห็นปัญหาใหม่ ๆ หรือแบบทำให้ผู้อ่านฮือฮาบอร์ดนี้ไปเลย
      เชื่อไหมว่าทุกครั้งที่ผมอยู่หน้าคอมฯ ผมจะคอย Refresh เพจนี้บ่อย ๆ เพื่อ
จะได้เห็นคำถามหรือความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง
      ตอนแรกที่ผมเจอบอร์ดนี้ผมก็ไล่อ่านไปกระทู้ที่มีผู้ถาม-ตอบไว้ ผมถึง
ได้รู้ว่าคำถามแบบไหนที่มีคนตอบแล้ว

เพิ่มเติม จาก กท.(R07005)
ข้อมูลล้านเร็คคอร์ด คุณ ... ก็สั่งให้มันทำการเพิ่มข้อมูลลงไปในตารางไงครับ (วนสักล้านรอบ)
8 @R07010
ได้ครับ คุณ U&ME บางคำถามผมก็ได้ลอง search สิ่งที่ต้องการแล้วแต่บางทีก็ไม่เจอ หรือเจอแต่ไม่ใช่ที่ต้องการทั้งหมด ผมจะพยายามอ่านใหม่ตั้งแต่ทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง
เพราะผมเพิ่มจะมาจับ access ได้ไม่ถึงสองอาทิตย์เลย เหมือนต้องนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง บางเรื่องแค่ง่ายๆ ก็ยังทำไม่ค่อยจะได้เลยครับ อีกทั้งยังต้องมาศึกษา vba ใหม่อีก แต่ด้วยความที่ทำไม่ได้แล้วไม่รู้จะทำยังไงต่อ แล้วมันยังค้างคาใจ อีกทั้งยังไม่รู้จะต้องไปถามใคร ในหนังสือก็ไม่มีบอกแบบที่เราต้องการ ยังไงเลยก็ต้องตั้งคำถามมาถามผู้รู้ใหม่อีกครั้ง
แต่ยังไงผมยังค้างคาเรื่อง class อยู่เลยนะครับ ที่คุณ u&me บอกเรื่องการทำ Instance นะครับ (อันนี้ไม่รู้ฮือฮาพอหรือเปล่าครับ)
ถ้าถึงตอนนั้นผมอาจจะตั้งกระทู้ใหม่ รบกวนคุณ u&me ด้วยนะครับ

9 @R07011
ผมเองก็จากมันไปนานหลายปีแล้วแหละครับในเรื่องของ Access ประมาณว่าตอนเป็นเด็กพอจะเขียนให้่โปรแกรมทำงานรู้สึกได้เลยว่ามันลื่นจริง ๆ มาแย่เอาพอตอนวัยรุ่นนี่แหละ พอจะเขียนโค้ดอะไรก็ต้องรอ code completion (ทำไงได้มันจำไม่ได้อ่ะ) ไม่งั้นก็ต้องเปิด Help [ลองสังเกตดูนะว่า Help นี่นะมันมีทุกอย่างที่เราต้องการจริง ๆ(ที่เกี่ยวกับ Access นะ)]
     เรื่องที่บอกว่าตรงความต้องการมั่ง/ไม่ตรงมั่ง อันนี้เป็นเรื่องธรรมดา ลองคิดดูนะครับว่า ถ้าสมมติผมถนัดเขียนโปรแกรมฐานข้อมูล เกิดมีวันหนึ่งที่ผม
อยากเขียนโปรแกรมกราฟฟิกแล้วจะทำให้ได้ในวันนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าเราไม่ได้
สั่งสมความรู้มามากพอ
     เรื่องหนังสือที่มีคนแต่งไว้(ขาย) เยอะแยะนั้น ผมเองเบื่อหน่ายกับหนังสือ
พวกนี้เต็มทน [โดยเฉพาะที่เป็นคนไทยหลายคนแต่งขึ้นมา(ย้ำว่าหลายคน ไม่ใช่ทุกคน)]ถ้าบอกว่าทุกคนเดี๋ยวบางท่านก็จะมีความเห็นขัดแย้งหรือความเห็นต่าง (คำพูดนายกฯ)   ผมเลยต้องดั้นด้น ค้นคว้า ปาผิดปาถูก ผูกมัด จัดเรียง เหวี่ยงแห แก้ข้อผิด คิดให้หนัก ฟูมฟักความรู้ (พล่ามซะยาว) จากนั้นผมไม่เคยซื้อหนังสือไทยเลย (ทั้ง ๆ ที่อ่อนอังกฤษมาก) แต่ด้วยความ
พยายามแม้จะต้องเปิด Dictionary ทุกคำกต้องทำ
     สุดท้ายเรื่อง class อันนี้ต้องศึกษาแนวคิดเรื่อง OOP แต่ถ้าวางแผนจะทำ
แนวนี้ต่อไปฟอร์มของคุณจะไม่ผูกกับ Object ตาราง คิวรี่ ใด ๆ ข้อมูลของคุณจะ
มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะการทำงานใด ๆ จะถูกตรวจสอบและทำผ่าน class ที่เราออกแบบมาเป็นอย่างดีแล้ว อาจต้องเสียเวลาในการคิด Algorithm และเขียนโค้ดมากขึ้น แต่ก็คุ้มถ้าคิดจะทำ หรืออาจทำเล่น ๆ เป็นตัวสำรองคู่กันไปก็ได้(ผมเองก็ชอบทำแบบนี้) เพื่อทดสอบว่าแบบไหนดีกว่า
10 @R07012
เพิ่มเติมเรื่องหนังสืออีกนิดนะครับ
     ไม่รู้ว่าที่ผมจะพูดต่อไปนี้มันผิดหรือถูก "ลองสังเกตดูว่า หนังสือไทยนี่นะถ้าเป็น
ตระกูลโปรแกรมมิ่ง ก็จะพูดอยู่นั่นแหละเรื่องประกาศตัวแปร ชนิดข้อมูล ลูป เลือก
แล้วก็มีโปรแกรมตัวอย่างกาก ๆ มาหลอกเราให้ซื้อ บอกว่าแถมโน่นแถมนี่"
     ถ้าเป็นหนังสือเฉพาะ Access ก็จะพูดเรื่อง ตาราง คิวรี่ ฟอร์ม มาโคร ดีขึ้นมาหน่อยก็จะแถมเรื่อง Module (ไม่มากอะไรหรอก นิด ๆ) ดีขึ้นอีกนิดก็แถม Class Module สองสามบรรทัด ยังกล้าเอามาขายน่ะนั่นเล่ม 200-300 เชียวนะ
เน้นรูปทั้งเล่ม สีสันสดสวย (50 บาท ก็พอแล้วมั้งน่ะ)
     ที่ผมพูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าคนไทยไม่เก่งนะครับ คนไทยนี่แหละครับเก่งอันอันดับต้น ๆ ของโลกแล้ว แล้วทำไมไม่ยอมเปิดเผยความรู้เหล่านั้นล่ะ เพราะคนไทยยังอยู่ในระบบ Hierarchy หรือไม่ก็เหตุผลแบบจีนที่ว่าให้ไปแล้ว"อั๊วจาทามมาหากิงอาไรว่ะ"
     สุดท้ายขอยกคุณความดี ความเมตตา ของผู้รู้หลายในบอร์ดนี้ที่ช่วยกัน
ตอบปัญหาโดยไม่รู้เหนื่อยหน่าย ทั้ง ๆ ที่บางทีก็คำถามเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ท่านยังเสียเวลามาอ่านและให้คำชี้แนะ ข้อดีอีกอย่างคือไม่มีโฆษณามาคั่น (โหลดเร็วดี) ช๊อบ ชอบ...
11 @R07016
ผมติดใจเรื่อง class แล้วครับ แต่ไม่รู้จะศึกษาที่ไหน มีเคยอ่านเจอในหนังสือ textbox เล่มหนึ่ง แต่ไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก (เพราะแบบง่าย ๆ ยังงงอยู่เลย) สิ่งที่ผมต้องการคือเรื่องเดิมๆที่เคยถามครับ อย่างเช่นที่ คุณ u&me ยกตัวอย่างเวลาเราขายของให้กับลูกค้าหลายหนึ่งเจอมีปัญหาแล้วเราต้องการจะขายให้กับอีกคนหนึ่งกลับกลายเป็นว่าเราต้องปิดจอ หรือทำอะไรสักอย่างกับข้อมูลปัจจุบันก่อนถึงจะทำการขายให้กับลูกค้าอีกรายหนึ่งได้ ทั้งๆที่หากสามารถเปิดฟอร์มเดียวกันได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ปัญหานี้ก็พบ ผมเคยลองเขียน class ใน c# ได้เรียบร้อยดีแต่ติดตรง c# ไม่สามารถแสดง grid ได้หลายบรรทัดในเวลาเดียวกันเหมือน access และมัน complie ตัวเองตลอดเวลา ไม่สามารถส่งค่าเป็น text ไปให้เหมือน access เพื่อเปลี่ยนค่าประมวลผลได้ เช่น me.forms.control("NAME").value ฯลฯ ใน c# ต้องกำหนดไปเลย (ดีอย่างเสียอย่าง)
กลับมาเรื่องเดิมถ้าผมจะเขียนแบบที่คุณ u&me บอกนะครับสามารถหาข้อมูลศึกษาได้ที่ไหน (ภาษาอังกฤษผมก็อ่อนเหมือนกัน search ใน google ก็ไม่ค่อยเจอ) ปัญหาของ access ที่ผมเข้าใจคือ ไม่สามารถเปิดฟอร์มซ้ำกันได้ เพราะปัญหาของผมที่จะตั้งกระทู้ต่อคือ
สมมุต ที่ฟอร์มขาย ผมแบ่งให้ว่าเซลล์คนไหนเป็นคนขายจะต้องเห็นข้อมูลเฉพาะคนที่ขาย เช่น
นาย A. จะเห็นเลขที่ใบขายเฉพาะเลขที่ A00001 ไปเรื่อยๆ
นาย B. จะเห็นเลขที่ใบขายเฉพาะเลขที่ B00001 ไปเรื่อยๆ
... ฯลฯ
ในความเป็นจริงเวลาเขียนโปรแกรมใน access เท่าที่ผมคิดได้คือ ผมจะต้องสร้าง form ที่มี code เหมือนก้นทุกอย่างโดยแบ่งดังนี้
frmsalesforsalesmanA
frmsalesforsalesmanB
frmsalesforsalesman... ฯลฯ
เกิดมีปัญหาที่ต้องแก้ไขที ก็ต้องมานั่งแก้ตามหมดทุกจอ เสียเวลาจริงใช่ไหมครับ
12 @R07017
เพิ่มเติมอีกหน่อยนะครับ ถ้าจะสร้าง class เป็น form ไปเลยได้ไหมครับ
ถ้าได้ มีประโยชน์ยังไง แล้วสร้างครั้งเดียวแล้วมันจะสั่งให้เปิดตัวมันเองซ้ำอีกได้ไหมครับ
13 @R07018
จริง ๆ แล้วเรื่องคลาสใน Help ของ Access ก็พอมีบ้างเป็นแนวทาง เช่น ผมรู้ว่า คลาสมันทำงานยังไง และมันควรจะทำอะไรได้ อันที่จริงผมศึกษาจาวาครับ บางคนอาจสงสัยว่า ถ้าศึกษาจาวาแล้วจะมายุ่งกะ Access ทำไม อธิบายว่างานบาง
อย่างมันก็เหมาะที่จะใช้ Access ก็ไม่จำเป็นต้องวางโครงสร้างใหม่ เสียเวลาเกินจำเป็น (ยิ่งผมชอบทำอะไรที่แปลก ๆ อยู่ด้วย) ประมาณว่า คนอื่นเขียนโปรแกรมขายโน่นขายนี่ แต่ผมเขียนขายหวย ซื้อหวย แถมยังมีใบ้หวยอีกตะหาก
    แหล่งศึกษาส่วนมากเป็น Text ครับ ไม่ว่าจะอ่าน Text ของจาวาหรือ Text ของ
ภาษา C พอเราเข้าใจหลักการทำงานของ OOP แล้วก็นำมาประยุกต์ใช้กับ Access
มันก็จะต่างกันตรง คำสั่ง Keyword หรือ Syntax
แหล่งโหลด Text book http://www.filecrop.com/
    ตอบ กท. (R07017) สำหรับคำถามแบบนี้เคยตอบไปแล้ว อธิบายอีกนิด Form นั้นมีคลาสของมันอยู่แล้ว เราก็แค่มีหน้าที่เอาคอนโทรลไปวางบนฟอร์ม
ซึ่งคอนโทรลก็มีคลาสเป็นของตัวเองเช่นกัน คอนโทรลพวกนี้มีแค่หน้าที่แสดง/นำเสนอข้อมูล หรือเป็นที่สำหรับรับข้อมูลจากผู้ใช้เท่านั้น ส่วนเรื่องการ??ัดการ
ข้อมูลจะเป็นหน้าที่ของคลาส แทนที่จะจัดการข้อมูลผ่านฟอร์มโดยตรง (bound form)

14 @R07027
ต่อครับ คุณ U&Me
เพิ่มเติม link ที่เพิ่งหาพบหวังว่าคงเป็นประโยชน์นะครับ

http://flylib.com/books/en/3.150.1.111/1/
15 @R07030
เป็นหนังสือที่ดีจริง ๆ ครับ เดี่ยวผมนำทางให้มันมาอยู่ในเครื่องผมเลย

ไม่แน่มันอาจเปลี่ยนแนวคิดในการเขียนโปรแกรมบน Access เลยก็ได้

ขอบคุณสำหรับ Link (Link ที่จะพาเราออกจาก "กะลา")
@ ประกาศใช้งานเว็บบอร์ดใหม่ => บอร์ดเรียนรู้ Access สำหรับคนไทย
แล้วจะใส่ลิ้งอ้างอิงมาที่โพสต์เก่านี้หรือไม่ก็ตามสะดวกครับ
Time: 0.3713s