กระทู้เก่าบอร์ด อ.Yeadram
2,627 9
URL.หัวข้อ /
URL
รบกวนตั้งแต่เริ่มต้นเลยนะครับ
เอาเป็นว่าตอนนี้ใช้ Excel ในการทำฐานข้อมูลสำหรับ Inventory ประจำเดือน
ประกอบด้วยความต้องการดังนี้ครับ
1. ผมมีหน้าที่ควบคุมงานในพื้นที่สต็อกครับ
2. งานที่ดูแลอยู่มีประมาณ 50รายการ
3. แต่ละรายการมีเบิกออกไปยังสต็อกหลัก(ทำการผลิตต่อ) และสต็อกรอง(ทำการแก้ไขงานก่อน)
4. สำหรับงานหนึ่งรายการสามารถเบิกได้หลายครั้งโดยการเขียนใบเบิก
ปัญหาก็คือว่าตอนสิ้นเดือนนั้นเราพิมพ์ข้อมูลออกมาเช็คกับงานแล้วไม่ตรงทำให้ข้อมูลเราล่าช้าและปรับปุรงรายการไม่ทัน
ตอนนี้ก็ใช้ Excel ในการเขียนฟังก์ชั่นแต่ว่าหน้าตามันออกจะเชยๆ แล้วก็ดูไม่ทันสมัยครับ
ผมจึงอยากให้มันสามารถเห็นรายการยอดคงเหลือเมื่อเวลาที่เราคีย์เข้าไปเลย
หรือเจ้านายกดปุ่มดูแล้วก็สามารถเห็นยอดงานได้ทันที
รบกวนแนะนำผมด้วยครับ
ซื้อหนังสือมาแล้วครับสองเล่ม แต่ว่ายังไม่เข้าใจว่าสร้างตารางเสร็จแล้วเราเปิดตารางมาคีย์ Database ไว้เลยหรือจะสร้างฟอร์มก่อนดีครับแล้วค่อยคีย์
รบกวนบอกขั้นตอนให้ทีนะครับ
ประกอบด้วยความต้องการดังนี้ครับ
1. ผมมีหน้าที่ควบคุมงานในพื้นที่สต็อกครับ
2. งานที่ดูแลอยู่มีประมาณ 50รายการ
3. แต่ละรายการมีเบิกออกไปยังสต็อกหลัก(ทำการผลิตต่อ) และสต็อกรอง(ทำการแก้ไขงานก่อน)
4. สำหรับงานหนึ่งรายการสามารถเบิกได้หลายครั้งโดยการเขียนใบเบิก
ปัญหาก็คือว่าตอนสิ้นเดือนนั้นเราพิมพ์ข้อมูลออกมาเช็คกับงานแล้วไม่ตรงทำให้ข้อมูลเราล่าช้าและปรับปุรงรายการไม่ทัน
ตอนนี้ก็ใช้ Excel ในการเขียนฟังก์ชั่นแต่ว่าหน้าตามันออกจะเชยๆ แล้วก็ดูไม่ทันสมัยครับ
ผมจึงอยากให้มันสามารถเห็นรายการยอดคงเหลือเมื่อเวลาที่เราคีย์เข้าไปเลย
หรือเจ้านายกดปุ่มดูแล้วก็สามารถเห็นยอดงานได้ทันที
รบกวนแนะนำผมด้วยครับ
ซื้อหนังสือมาแล้วครับสองเล่ม แต่ว่ายังไม่เข้าใจว่าสร้างตารางเสร็จแล้วเราเปิดตารางมาคีย์ Database ไว้เลยหรือจะสร้างฟอร์มก่อนดีครับแล้วค่อยคีย์
รบกวนบอกขั้นตอนให้ทีนะครับ
9 Reply in this Topic. Dispaly 1 pages and you are on page number 1
2 @R01545
1. ตอนนี้สร้างตารางสองตารางที่สัมพันธ์กันแล้วแต่มีคำถามที่ว่าเราป้อนข้อมูลในตารางไปได้เลยโดยไม่ต้องสร้างแบบฟอร์มได้เลยใช่เปล่าครับ
2. แล้วในส่วนของข้อมูลที่สัมพันธ์กันสองตารางนี้ผมควรจะดึงออกมาเป็นฟอร์มแล้วกรอกรายละเอียดเข้าไปดีครับ
2. แล้วในส่วนของข้อมูลที่สัมพันธ์กันสองตารางนี้ผมควรจะดึงออกมาเป็นฟอร์มแล้วกรอกรายละเอียดเข้าไปดีครับ
3 @R01550
อืมม แบบนี้เรียกว่า จับมือทำ เลยนะครับเนี่ย อิอิ
คุณควรหาโหลดตัวอย่างที่คนอื่นทำไว้แล้ว มาดูเป็นตัวอย่างนะครับ พยายามสังเกต ว่าเขา สร้าง ฟอร์มเกี่ยวข้องกับตารางอย่างไร ไม่ต้องเน้นหรอกครับว่า ตัวอย่างนั้นจะเป็นตัวอย่างโปรแกรมอะไร ขอให้เขียนขึ้นจาก Access มันจะเหมือนๆ กันทั้งหมดครับ ถ้าจะดูเรื่องของ ตาราง-ความสัมพันธ์-ฟอร์มหลัก-ฟอร์มย่อย แนะนำว่า ให้ขยันเปิดดูตัวอย่างเยอะๆ ครับ ดูหลายๆ แนว แล้วพยามหาจุดเหมือน ที่มันต้องมีอยู่แล้ว
ตอบข้อ 1
เราสามารถป้อนโดยตรงในตารางได้ครับ ถ้าทำถูกลำดับของความสัมพันธ์ เช่น ถ้าคุณสร้างความสัมพันธ์ แบบ 1-Many คุณต้องป้อนข้อมูลในตารางฝั่ง 1 ก่อน
มิฉะนั้นคุณจะป้อนข้อมูลในตารางฝั่ง many ไม่ได้
ยกตัวอย่าง ถ้าคุณมีตาราง ชั้นเรียน กับตารางรายชื่อนักเรียน คุณต้องป้อนข้อมูลเข้าตารางชั้นเรียนก่อนว่า มีชั้นอะไรบ้าง แล้วจึงจะสามารถป้อนข้อมูลนักเรียนได้ เพราะนักเรียนต้องมีสังกัดชั้นครับถ้าไม่เคยมีข้อมูลเกี่ยวกับชั้นเรียน นักเรียนคนนั้นจะสังกัดชั้นอะไร ระบบมันยอมไม่ได้ครับ
ตอบข้อ 2
ถ้าคุณสร้างความสัมพันธ์ของตารางเป็นแบบ one-many ดังที่กล่าวในข้อ 1 ควรอย่างยิ่งครับ ที่จะสร้างฟอร์มเพื่อรับข้อมูล โดยให้มีฟอร์มหลักและฟอร์มย่อยครับ
คงละเอียดมากไปกว่านี้ไม่ไหวนะครับ ขนาดนั้นคงต้องถึงขึ้น จับมือสอนทำ ทีละขั้น ตาม คอร์สเรียนแล้วล่ะครับ
พยายามต่อไปครับ อ่านหนังสือ ดูตัวอย่าง ลองผิดลองถูก ถ้าเจอทางตัน ย้อนกลับมาปรึกษาได้อีกเรื่อยๆ ครับ
คุณควรหาโหลดตัวอย่างที่คนอื่นทำไว้แล้ว มาดูเป็นตัวอย่างนะครับ พยายามสังเกต ว่าเขา สร้าง ฟอร์มเกี่ยวข้องกับตารางอย่างไร ไม่ต้องเน้นหรอกครับว่า ตัวอย่างนั้นจะเป็นตัวอย่างโปรแกรมอะไร ขอให้เขียนขึ้นจาก Access มันจะเหมือนๆ กันทั้งหมดครับ ถ้าจะดูเรื่องของ ตาราง-ความสัมพันธ์-ฟอร์มหลัก-ฟอร์มย่อย แนะนำว่า ให้ขยันเปิดดูตัวอย่างเยอะๆ ครับ ดูหลายๆ แนว แล้วพยามหาจุดเหมือน ที่มันต้องมีอยู่แล้ว
ตอบข้อ 1
เราสามารถป้อนโดยตรงในตารางได้ครับ ถ้าทำถูกลำดับของความสัมพันธ์ เช่น ถ้าคุณสร้างความสัมพันธ์ แบบ 1-Many คุณต้องป้อนข้อมูลในตารางฝั่ง 1 ก่อน
มิฉะนั้นคุณจะป้อนข้อมูลในตารางฝั่ง many ไม่ได้
ยกตัวอย่าง ถ้าคุณมีตาราง ชั้นเรียน กับตารางรายชื่อนักเรียน คุณต้องป้อนข้อมูลเข้าตารางชั้นเรียนก่อนว่า มีชั้นอะไรบ้าง แล้วจึงจะสามารถป้อนข้อมูลนักเรียนได้ เพราะนักเรียนต้องมีสังกัดชั้นครับถ้าไม่เคยมีข้อมูลเกี่ยวกับชั้นเรียน นักเรียนคนนั้นจะสังกัดชั้นอะไร ระบบมันยอมไม่ได้ครับ
ตอบข้อ 2
ถ้าคุณสร้างความสัมพันธ์ของตารางเป็นแบบ one-many ดังที่กล่าวในข้อ 1 ควรอย่างยิ่งครับ ที่จะสร้างฟอร์มเพื่อรับข้อมูล โดยให้มีฟอร์มหลักและฟอร์มย่อยครับ
คงละเอียดมากไปกว่านี้ไม่ไหวนะครับ ขนาดนั้นคงต้องถึงขึ้น จับมือสอนทำ ทีละขั้น ตาม คอร์สเรียนแล้วล่ะครับ
พยายามต่อไปครับ อ่านหนังสือ ดูตัวอย่าง ลองผิดลองถูก ถ้าเจอทางตัน ย้อนกลับมาปรึกษาได้อีกเรื่อยๆ ครับ
4 @R01553
เห็นในนี้มีให้ download http://access.crtrading.net/download.aspx
5 @R01563
ขอบคุณครับผมเข้าใจเพิ่มมากขึ้นอีกเยอะๆเลยและตอนนี้ผมได้สร้างรูปแบบการตัดยอดได้แล้วคร้บแต่หน้าตายังไม่สวยเท่าไร และตอนนี้ก็กำลังลองเขียน Code ในการสั่งให้เครื่องบันทึกข้อมูลอยู่ครับผม ขอบคุณจากใจจริงๆ
6 @R01649
ตอนนี้ทำถึงขั้นตอนที่จะใช้ยอดแล้ว
แต่มีคำถามต่อว่าถ้าต้องการรักษาไม่ให้ Code ถูกแก้ไข
คือให้เครื่องอื่นๆ ที่ใช้งานด้วยป้อนข้อมูลกับรายงานเท่านั้นทำได้อย่างไรบ้างแนะนำด้วยคร๊าฟ
แต่มีคำถามต่อว่าถ้าต้องการรักษาไม่ให้ Code ถูกแก้ไข
คือให้เครื่องอื่นๆ ที่ใช้งานด้วยป้อนข้อมูลกับรายงานเท่านั้นทำได้อย่างไรบ้างแนะนำด้วยคร๊าฟ
7 @R01650
8 @R01721
สุดยอดไปเล้ยครับอาจารย์ ซาบซึ้งใจจริงในทุกคำตอบทำให้เริ่มสนุกกับการใช้งานแล้วสิ
9 @R01722
แต่ไม่มีอะไรในโลกนี้เป็นความลับหมดนะครับ มีคนผูก ก็มีคนแก้ ... มีบริการในต่างประเทศที่รับทำ Reverse Engineering คือแม้ว่าเราจะทำเป็น .mde แล้วก็ตาม แต่ก็มีความพยายามเอา .mde มาแปลงกลับเป็น Source Code แกะ Form, Report กลับออกมา แม้จะไม่ได้ Source Code เหมือนเดิม 100% แต่ก็อาจได้ใกล้เคียงหรืออาจไม่ได้เหมือนเดิมเลย แต่ลอจิคก็ทำงานได้เหมือนเดิม ... อย่างไรก็ตาม บริการพวกนี้ก็ต้องตรวจสอบเราด้วยว่า สามารถยืนยันได้หรือไม่ว่าเป็นไฟล์โปรแกรมของเราเอง ไม่งั้นก็ไม่ทำให้ครับ
Time: 0.3370s
ข้อมูล ได้ ทำงานได้ กรอกข้อมูลได้ นั้นคือตารางเดียว คล้ายกับ 1 DATASHEET แต่ความเป็นจริง เราไม่ได้ทำงานแค่ตารางเดียว
เพราะ DATABASE คือชุดของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน ตอนนี้ ยังไม่ต้องทำ
FORM อะไรครับ ลองเล่น ข้อมูล ออกแบบ TABLE ที่มีความสัมพันธ์กัน
ซัก 2 ตารางดูก่อน
ว่าแต่ว่า INTRODUCE ในหนังสือ DATABASE เขามักจะพูดหลักการมาก่อนว่า
ทำไม ยังงัย ถึงต้อง DATABASE ส่วนแรกๆ พวกนี้ต้องอ่านด้วยครับ ถึงจะ
เข้าใจรากฐานพอสมควร
แต่ถ้าเป็นหนังสือ พวก STEP BY STEP พวกนี้จะไม่ค่อยได้อะไร และมักไม่รู้ที่มาที่ไปครับ