ถ้าพูดตามหลักการ ก็ต้องบอกว่าได้ ใช้ Access เป็นหน้ากาก และจะใช้ฐานข้อมูลเป็นตัว .mdb, .accdb เองก็ได้ แต่มันก็มีข้อจำกัดที่ขนาดและความสามารถของตัวฐานข้อมูลด้วย หรือจะใช้กับฐานข้อมูลที่มีขนาดใหญ่เช่น SQL Server, Oracle, Sybase ก็จะดี แต่ก็ต้องมีเทคนิคเขียนมากมายเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่เป็นที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับ SAP ผมก็ไม่รู้ว่าภาษา ABAP/4 ของ SAP เองมีประสิทธิภาพแค่ไหน แต่ก็เดาๆว่าน่าจะดีกว่าหน่ะครับ เพราะทำมาสำหรับงาน Business Application โดยตรง ตัวภาษาเองมีรูปแบบที่เห็นได้ชัดว่าได้รับอิทธิพลของภาษา COBOL มา ซึ่งใครเคยเขียน COBOL มาก็จะรู้ดีว่าเป็นภาษาที่เยิ่นเย้อ แต่ ABAP/4 ออกอาการน้อยกว่า COBOL

ถ้าพูดถึงระบบ ERP ทั้งระบบในความเห็นของผม ยากที่สุดและเป็นความลับที่สุดก็คือการคำนวน MRP ที่ให้ผลที่นำไปใช้ได้อย่างจริงๆจังๆในขั้นตอนเดียว เพราะการคำนวนน่าจะต้องใช้นักคณิตศาสตร์คิดค้นหาสูตรซึ่งปกปิดเป็นความลับแน่นอน อาจจะมีวิธีอื่นอีก แต่ก็อาจไม่ได้เร็วอย่างที่ควรจะเป็น เดาว่า SAP คงมีให้เรียกใช้ฟังก์ชันที่ทำหน้าที่คำนวนนี้ให้แล้ว แต่แน่ๆคือ Access ไม่มี

ถ้าพูดถึงในกรณีทำเงิน ทำงานที่เกี่ยวกับ SAP นี่ทำเงินได้ดีกว่า เพราะองค์กรที่จะซื้อ SAP ได้ ต้องเป็นองค์กรใหญ่ มีทุนเยอะ แล้ว SAP ก็จัดอยู่ในตลาดระดับบน ในมุมมองของตลาด คนซื้อ SAP เหมือนคนขับรถเฟอรารี่ (ที่เอามาขับในกรุงเทพฯที่ความเร็ว 40 กม./ชม เดี๋ยววิ่ง เดี๋ยวหยุด, อันนี้ขอแอบกัดเล็กๆเถอะ) ส่วนคนซื้อ MS Access เหมือนคนขับจักรยาน Turbo คันละสองพัน (ที่ไปถึงจุดหมายในถนนที่รถติดได้เร็วกว่า) น่ะครับ แต่คุณขายเฟอรารี่คันเดียว ก็อยู่ได้ไปทั้งปีแล้ว !!!

ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ใช้ MS Access เพื่อทำ ERP เหตุผลคือเครื่องไม้เครื่องมือในการพัฒนามันยังไม่เพียงพอต่อระบบใหญ่ แล้ว Microsoft ชอบกั๊กไม่แก้ไขปรับปรุงส่วนต่างๆของ MS Access ให้ตามคำเรียกร้องของนักพัฒนาสักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลทางธุรกิจหรือไม่ แต่ก็ทำให้นักพัฒนาต้องดิ้นรนเปลืองเงินและเวลาเกินความจำเป็น ถ้าคุณคิดจะลงทุนพัฒนา ERP แล้ว แนะนำว่าให้ศึกษาให้ดีว่าระบบนี้มันต้องมีระบบย่อยอะไร แล้วใช้ Development Tools ตัวไหนดี ต่อให้คุณต้องศึกษาถึง 2 ปีกว่าจะเริ่มงานจริงๆจังๆ ก็ยังถือว่าคุ้มครับ แต่ถ้าคุณจะทำ แปลว่าคุณคงมีเงินทุนหนาทีเดียว ผมแนะนำว่าไปเจรจากับบ.ที่เขาพัฒนาแล้ว มีขายอยู่แล้ว มีฐานลูกค้าจำนวนมากอยู่แล้ว ไปซื้อ source code เขามาพัฒนาต่อจะดีกว่าครับ หรือจะไปซื้อบ.นั้นมาเลยก็ได้ ประหยัดไปได้เยอะเลย

ถ้าคุณใช้คำว่า ERP คงจะเหมือนได้อยากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลยอ่ะครับ
เพราะ SAP หรือ Oracle เค้ามี Algorithm มี Tool สำหรับช่วยวิเคราะห์ ออกแบบและพัฒนาจากฐานข้อมูลระบบ เยอะมากๆ แบบจัดเต็ม ซึ่งแทบจะเรียนรู้เองไม่ได้เลย ต้องไปอบรมกันเป็นเดือนๆ ปีๆ แต่ MS Access เป็นประเภทจัดเก็บฐานข้อมูลแบบตรงไปตรง เล็กๆ เทียมไม่ได้ระดับนั้น และยังไม่มี Algorithm สำหรับวิเคราะห์แบบนั้นด้วย ซึ่งถ้าจะทำให้เหมือนโดยการโค๊ด ก็อาจต้องใข้เวลาเป็นปีๆ และไม่รู้ว่าจะเทียบกันได้แค่ไหนด้วยซ้ำเพราะภาษา SQL มันก็มีข้อจำกัดของมัน ส่วนภาษา VBA หรือแม้แต่ VB ก็ไม่ใช่ภาษาที่ดีนัก นี่ยังไม่รวมเรื่องความรู้ทางด้าน ERP ที่คุณต้องใช้ในการสร้าง Algorithm ให้กับ MS Access เลยนะ 555

สรุปแล้ว MS Access เหมาะกับการจัดเก็บฐานข้อมูลประเภทส่วนบุคคลหรือ SME มากกว่า ไม่สามารถรองรับฐานข้อมูลได้มากขนาดโปรแกรมตัวละเป็น แสนๆ ที่ขายกันในองค์การใหญ่ๆ MS Access ทำให้คนอย่างเราๆเข้าถึงระบบการจัดเก็บฐานข้อมูลที่ดีได้ เรียนรู้และเข้าใจและพัฒนาด้วยตัวเองได้

ขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่ให้คำชี้แนะ ขอแนะนำตัวเองก่อนน่ะครับ
ปัจจุบัน ผมเป็น ERP Project Manager ให้โรงงานอยู่ โดยใช้ โปรแกรม ERP ของค่าย Microsoft ชื่อ Ms Dynamic NAV2013 ระหว่างที่ Implement ก็ได้รับความรู้พอสมควร ประกอบกับพอมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ MS Access อยู่บ้าง
จึงเห็นว่า Application ก็ไม่น่ายากอะไร มี Table Form และ Report คล้ายๆ Access แต่จะมี Function คำนวณให้เยอะพอสมควร เช่น MPS MRP Production Cost แต่มีไม่มีความรู้เพียงพอที่จะบอกได้ว่า Access ทำให้เหมือนเลยได้หรือไม่ จึงไม่แน่ใจว่าจะลงทุนศึกษา Access เพื่อทำ ERP จะคุ้มค่าหรือไม่
คำถาม
1. Access มีข้อจำกัดเรื่องปริมาณการจัดเก็บข้อมูลหรือไม่
2. Access หากใช้พร้อมกันหลายๆคน (10 คน) ระบบจะมีปัญหาหรือไม่
3. Access หากข้อมูลมากขึ้นจะทำให้ความเร็วลดลงหรือไม
4. หากจะใช้ Access เขียน Program ERP สำหรับ SME เป็นไปได้หรือไม่
    โดยมีครบทุก Module ได้แก่ ระบบการวางแผนการผลิต การจัดซื้อ การผลิต   การบำรุงรักษา คลังสินค้า และบัญชี เป็นต้น

ผมก็ไม่รู้ว่าเจ้า MS Dynamic มันทำได้ขนาดไหน อย่างที่ผมว่า ผมสนใจเฉพาะส่วน MRP เท่านั้น ส่วนระบบอื่นๆ ไปหาที่ไหนก็มีขายครับ เต็มไปหมด   แต่ MPS หรือ MRP ตามทฤษฏีเอามาใช้ได้จริงในโรงงานหรือไม่ ผมไม่กล้ายืนยัน แต่ที่เห็นๆความต้องการก็คือ อะไรผลิตที่ไหน ซื้อจากใคร จำนวนเท่าไหร่ เมื่อไหร่ ซึ่งต้องเป็นไปได้ตามจริงด้วย คือ ต้องไม่เกิน machine capacity และ work center ต้องทำงานได้ต่อเนื่อง, ต้องไม่ overdue, จัดกำลังคนได้ตามกะของโรงงาน และต้องประหยัด cost ต่างๆ   ถ้าเกิด over capacity คุณจะทำยังไง แค่ขยายเวลาผลิตออกไป หรือเปิด line ผลิตเพิ่มขึ้น หรือไปซื้อมาขายแทนการผลิต หรือเพิ่มกะทำงาน หรือผสมกันหลายๆอย่าง แล้วอะไรหล่ะ ประหยัดเงินที่สุด ยิ่งถ้า BOM คุณมีหลายระดับ การปรับเปลี่ยนค่าอะไรเพียงตัวใดตัวนึง มันจะกระทบไปทั้งแผงงาน การคำนวนตรงนี้แหล่ะที่กินกำลังเครื่องมาก นาน และยาก ระบบนี้เองผมก็ไม่สามารถหาอัลกอรึธึมมาทำได้ (ถ้าใครมีก็บอกด้วยนะครับ)

1. ฐานข้อมูลตัว .accdb, .mdb ไม่เกิน 2 GB ระบบนึงสามารถสร้างได้หลายๆฐานข้อมูล แต่ไม่สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์หรือสร้าง referential Integrity ของเทเบิลระหว่างฐานข้อมูล และแต่ละเทเบิลไม่สามารถขยายไปฐานข้อมูลก้อนอื่นๆได้ ยกเว้นคุณไปใช้ฐานข้อมูลระดับใหญ่ ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องเหล่านี้

2. ถ้าเขียนดีๆ ก็ไม่มีปัญหาครับ ลูกค้าผมใช้อยู่ ณ ตอนที่ตอบคำถามนี้ 12 เครื่องพร้อมๆกัน

3. ขึ้นอยู่กับการออกแบบเทเบิล การเขียนโปรแกรม ประสิทธิภาพเครื่อง และตัวเน็ทเวิร์คเองด้วยครับ

4. ตามที่ได้เคยตอบไปแล้วครับ