กระทู้เก่าบอร์ด อ.Yeadram
7,317 11
URL.หัวข้อ /
URL
เขียนโปรแกรมด้วย Access พอจะยึดเป็นอาชีพได้มั้ยครั
[SIZE=5]เขียนโปรแกรมด้วย Access พอจะยึดเป็นอาชีพได้มั้ยครับ
1 Access มีคนนียมมากแค่ไหน
2 Access มีโอกาศที่จะหายไปมั้ย ประมาณว่ายกเลิกใช้กันไปเลยครับ
ขอคุณล่วงหน้าครับ[/FONT]
1 Access มีคนนียมมากแค่ไหน
2 Access มีโอกาศที่จะหายไปมั้ย ประมาณว่ายกเลิกใช้กันไปเลยครับ
ขอคุณล่วงหน้าครับ[/FONT]
11 Reply in this Topic. Dispaly 1 pages and you are on page number 1
2 @R19393
ตั้งแต่รู้จักเวปนี้ รูัเลยว่า Access เจ๋งมากๆ
ข้อเสียคือ มันไม่เหมาะกับทำเป็นการค้าเท่าไหร่
ข้อเสียคือ มันไม่เหมาะกับทำเป็นการค้าเท่าไหร่
3 @R19394
ได้ ผมก็ทำเป็นอาชีพมากว่า 10 ปีแล้ว แต่...ในท้องตลาดยังมีตัว Business Application Delevopment Tool ตัวอื่นที่ผมเชื่อว่าดีกว่า Access เช่น Power Builder ของ บ. Sybase หรือลองดูจาก http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_graphical_user_interface_builders_and_rapid_application_development_tools คุณควรศึกษาให้ดีว่าแต่ละตัวที่สนใจนั้น มันมีข้อดีข้อเสียยังไง แน่นอนว่าต้องหาจากใน google ด้วยคำว่า limitation หรือ disadvantage สำหรับผมนั้น Access ถือว่าอยู่ในระดับดีแล้ว แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควร เหมือนทำคุณสมบัติมาให้ใช้ แต่ทำแล้วก็ไม่ทำให้มันสมบูรณ์ ขาดโน่นนิดนี่หน่อยไปทั่ว (ไม่แน่ใจว่ามันเป็นนโยบายทางการค้าเพื่อให้เราซื้อของกับ Partner ของเขาเพื่อให้ได้สิ่งที่สมบูรณ์ด้วยหรือไม่)
ส่วนถ้าคุณไม่ทำ Business Application คุณก็ต้องไปใช้ภาษาหรือตัวพัฒนาตัวอื่นแทน ผมว่าคุณควรคิดจากจุดนี้ว่าคุณจะเขียนโปรแกรมประเภทไหนก่อน แล้วค่อยไปหาว่าควรใช้ภาษาอะไร
อยากให้ข้อคิดเอาไว้ว่า Business Application ชื่อมันก็บอกแล้วว่าอิงกับธุรกิจ ลูกค้าแต่ละรายจะมีระเบียบขั้นตอนกฏเกณฑ์ปลีกย่อยแตกต่างกันไป การจะมาเขียนระบบบัญชี,สินค้าคงคลัง,ระบบซื้อ/ขาย ฯลฯ ที่เป็นระบบมาตรฐานนั้น ในท้องตลาดมีหมดแล้ว ถ้าผมเป็นเจ้าของธุรกิจ ผมไปซื้อกับของที่เขามีทำมานานแล้วดีกว่า ไม่ซื้อกับซอฟท์แวร์หน้าใหม่ ดังนั้นเราก็จะมีลูกค้าได้ก็ต้องปรับแต่งให้ลื่นไหลไปกับธุรกิจของลูกค้าได้ เราถึงจะได้งาน ซึ่งแปลว่าทุกงานคืองานใหม่ งานที่เขียนให้ขายได้ที่ที่เดียว มันต้องลงแรง เงิน สมองเยอะ ค่าใช้จ่ายจะต้องสูง มูลค่าที่แท้จริงของหน้าฟอร์มเดียวอาจมีราคาเท่ากับการซื้อระบบมาตรฐานทั้งระบบได้เลย ถ้าจะคิดราคาต่ำก็สนุกในช่วงแรกแต่ต่อไปเข้าเนื้อ กินมาม่าเป็นงานประจำแทน ถ้าคิดราคาสูง มักจะได้ยินคำว่า "ทำไมแพงจัง !!!" ไม่ก็ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับจากลูกค้าเลย คือไม่ต่อรองราคาเลย ไม่ซื้อไปเลย ดังนั้นถ้าคุณเงินทุนไม่เยอะ หรือคุณไม่ได้ทำกับซอฟท์แวร์เฮาส์ใหญ่ๆที่เขาประมูลงานราคาสูงได้ หรือถ้าคุณไม่โชคดีที่ได้ลูกค้าที่ royalty กับคุณ การอยู่ในแวดวงเขียนโปรแกรมพวก Business Application ก็ลำบากทีเดียว ถ้าถามผมว่าตอนนี้ทำอะไรดี ผมว่าไปเรียนทำแอนนิเมชั่นดีที่สุด ไม่เครียด สนุก ตื่นตาตื่นใจ ทุกงานเป็นงานใหม่ด้วยตัวงานมันเองอยู่แล้ว มูลค่าสูง มีลู่ทางเยอะทั้งทำหนังทำโฆษณาทั้งในและต่างประเทศ มีหลาย ม. ที่สอนกันแล้ว
1. สำหรับนักพัฒนาโปรแกรมในเมืองไทยคงไม่นิยมสักเท่าไหร่ มักใช้ในการเรียนการสอนซะมากกว่าเพราะถือว่าเรียนรู้ได้ง่าย user interface เป็นแบบเป็นแผนดี มีทั้งฟอร์ม/รายงาน/ตัวฐานข้อมูลในตัวเอง
2. เป็นไปได้ยากมากๆ เพราะมันเป็นหนึ่งในชุด Microsoft Office ซึ่งเป็นสินค้าที่สร้างรายได้หลักของ Microsoft ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตลอด บ.ยักษ์ใหญ่พวกนี้เขาขาย Microsoft Office มีมูลค่าเป็นหมื่นล้าน(ดอลล่าร์)ต่อปี (2.3 หมื่นล้านในปี 2011 และคาดว่าถึง 2.6 หมื่นล้านในปี 2016) เขาไม่หยุดพัฒนาหรอกครับ
ส่วนถ้าคุณไม่ทำ Business Application คุณก็ต้องไปใช้ภาษาหรือตัวพัฒนาตัวอื่นแทน ผมว่าคุณควรคิดจากจุดนี้ว่าคุณจะเขียนโปรแกรมประเภทไหนก่อน แล้วค่อยไปหาว่าควรใช้ภาษาอะไร
อยากให้ข้อคิดเอาไว้ว่า Business Application ชื่อมันก็บอกแล้วว่าอิงกับธุรกิจ ลูกค้าแต่ละรายจะมีระเบียบขั้นตอนกฏเกณฑ์ปลีกย่อยแตกต่างกันไป การจะมาเขียนระบบบัญชี,สินค้าคงคลัง,ระบบซื้อ/ขาย ฯลฯ ที่เป็นระบบมาตรฐานนั้น ในท้องตลาดมีหมดแล้ว ถ้าผมเป็นเจ้าของธุรกิจ ผมไปซื้อกับของที่เขามีทำมานานแล้วดีกว่า ไม่ซื้อกับซอฟท์แวร์หน้าใหม่ ดังนั้นเราก็จะมีลูกค้าได้ก็ต้องปรับแต่งให้ลื่นไหลไปกับธุรกิจของลูกค้าได้ เราถึงจะได้งาน ซึ่งแปลว่าทุกงานคืองานใหม่ งานที่เขียนให้ขายได้ที่ที่เดียว มันต้องลงแรง เงิน สมองเยอะ ค่าใช้จ่ายจะต้องสูง มูลค่าที่แท้จริงของหน้าฟอร์มเดียวอาจมีราคาเท่ากับการซื้อระบบมาตรฐานทั้งระบบได้เลย ถ้าจะคิดราคาต่ำก็สนุกในช่วงแรกแต่ต่อไปเข้าเนื้อ กินมาม่าเป็นงานประจำแทน ถ้าคิดราคาสูง มักจะได้ยินคำว่า "ทำไมแพงจัง !!!" ไม่ก็ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับจากลูกค้าเลย คือไม่ต่อรองราคาเลย ไม่ซื้อไปเลย ดังนั้นถ้าคุณเงินทุนไม่เยอะ หรือคุณไม่ได้ทำกับซอฟท์แวร์เฮาส์ใหญ่ๆที่เขาประมูลงานราคาสูงได้ หรือถ้าคุณไม่โชคดีที่ได้ลูกค้าที่ royalty กับคุณ การอยู่ในแวดวงเขียนโปรแกรมพวก Business Application ก็ลำบากทีเดียว ถ้าถามผมว่าตอนนี้ทำอะไรดี ผมว่าไปเรียนทำแอนนิเมชั่นดีที่สุด ไม่เครียด สนุก ตื่นตาตื่นใจ ทุกงานเป็นงานใหม่ด้วยตัวงานมันเองอยู่แล้ว มูลค่าสูง มีลู่ทางเยอะทั้งทำหนังทำโฆษณาทั้งในและต่างประเทศ มีหลาย ม. ที่สอนกันแล้ว
1. สำหรับนักพัฒนาโปรแกรมในเมืองไทยคงไม่นิยมสักเท่าไหร่ มักใช้ในการเรียนการสอนซะมากกว่าเพราะถือว่าเรียนรู้ได้ง่าย user interface เป็นแบบเป็นแผนดี มีทั้งฟอร์ม/รายงาน/ตัวฐานข้อมูลในตัวเอง
2. เป็นไปได้ยากมากๆ เพราะมันเป็นหนึ่งในชุด Microsoft Office ซึ่งเป็นสินค้าที่สร้างรายได้หลักของ Microsoft ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตลอด บ.ยักษ์ใหญ่พวกนี้เขาขาย Microsoft Office มีมูลค่าเป็นหมื่นล้าน(ดอลล่าร์)ต่อปี (2.3 หมื่นล้านในปี 2011 และคาดว่าถึง 2.6 หมื่นล้านในปี 2016) เขาไม่หยุดพัฒนาหรอกครับ
4 @R19395
ในความเห็นผมเห็นว่า ข้อเสีย ที่สำคัญของ Access คือ ความปลอดภัยของฐานข้อมูล และ ผมไม่แน่ใจว่าหากนำ Access ไปใช้ทำระบบใหญ่ ๆ (หลายร้อยผู้ใช้งาน) จะมีปัญหาความเสถียร (Stable) หรือไม่ ดังนั้นเห็นว่า ควรใช้ Access เป็น หน้าบ้าน (front end)
และใช้ โปรแกรมฐานข้อมูลโดยเฉพาะ เช่น SQL Server เป็นหลังบ้าน (Back end) เพื่อใช้ข้อดีของแต่ละฝ่ายมารวมกัน สำหรับเรื่องอนาคตคิดว่า Access ถูกพัฒนาไปอีกไกลแน่ เพราะเป็นของ Microsoft ที่จะออก Office ใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ผมคาดว่า Microsoft คงรวม Excel กับ Access เข้าด้วยกัน เพื่อชดเชย ข้อดี-เสีย ของกันและกัน
และใช้ โปรแกรมฐานข้อมูลโดยเฉพาะ เช่น SQL Server เป็นหลังบ้าน (Back end) เพื่อใช้ข้อดีของแต่ละฝ่ายมารวมกัน สำหรับเรื่องอนาคตคิดว่า Access ถูกพัฒนาไปอีกไกลแน่ เพราะเป็นของ Microsoft ที่จะออก Office ใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ผมคาดว่า Microsoft คงรวม Excel กับ Access เข้าด้วยกัน เพื่อชดเชย ข้อดี-เสีย ของกันและกัน
5 @R19399
ในความเห็นผม ถ้าคุณใช้คำว่า "พอจะยึดเป็นอาชีพได้มั้ยครับ" ผมไม่แนะนำครับ ถึงรอดก็ไม่โตครับ หากรักงานด้านนี้จริง ควรทำได้หลากหลายมากกว่านี้ MS Access เป็นแค่ทางเลือกให้ลูกค้าหากลูกค้าต้องการให้ทำเท่านั้นครับ
มุมมองผม MS Access ก็เหมือนกับ MS Word, Excel, Power Point ทั่วไปที่ให้ผู้ใช้ทั่วๆไปสามารถนำไปพัฒนาเองได้ ไม่จำเป็นต้องจ้างใครมาเขียนให้เท่าไหร่หรอกนะครับ
หลายคนมักมอง MS Access เป็นระบบจัดเก็บฐานข้อมูลเทียบกับระบบใหญ่ แต่ผมมองว่ามันเป็นเหมือนโปรแกรมธรรมดาอย่างเช่น Word, Excel, PowerPoint ที่ให้ผู้ใช้สามารถสร้างระบบจัดเก็บเรียกใช้ฐานข้อมูลส่วนตัวได้ด้วยตัวเองมากกว่า แต่ด้วยความสามารถที่มันทำงานรวมกับภาษา VB ได้นี่แหละครับที่ทำให้มันดูเหมือนเก่งเวอร์ ซึ่งจริงๆมันก็มีใน Word, Excel, PowerPoint เช่นกัน เพราะเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ทำให้ขุด MS Office เหนือกว่าคู่แข่ง
ดังนั้นหากคุณสนใจเรื่องการเป็นโปรแกรมเมอร์จริงๆ ควรศึกษาเรื่องของภาษาการเขียนโปรแกรมจริงๆมากกว่า ซึ่งจะเป็นภาษาอะไรนั้นต้องลองค้นหาทำความเข้าใจแต่ละภาษาดูครับ มันมีข้อดีข้อเสียต่างกัน
มุมมองผม MS Access ก็เหมือนกับ MS Word, Excel, Power Point ทั่วไปที่ให้ผู้ใช้ทั่วๆไปสามารถนำไปพัฒนาเองได้ ไม่จำเป็นต้องจ้างใครมาเขียนให้เท่าไหร่หรอกนะครับ
หลายคนมักมอง MS Access เป็นระบบจัดเก็บฐานข้อมูลเทียบกับระบบใหญ่ แต่ผมมองว่ามันเป็นเหมือนโปรแกรมธรรมดาอย่างเช่น Word, Excel, PowerPoint ที่ให้ผู้ใช้สามารถสร้างระบบจัดเก็บเรียกใช้ฐานข้อมูลส่วนตัวได้ด้วยตัวเองมากกว่า แต่ด้วยความสามารถที่มันทำงานรวมกับภาษา VB ได้นี่แหละครับที่ทำให้มันดูเหมือนเก่งเวอร์ ซึ่งจริงๆมันก็มีใน Word, Excel, PowerPoint เช่นกัน เพราะเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ทำให้ขุด MS Office เหนือกว่าคู่แข่ง
ดังนั้นหากคุณสนใจเรื่องการเป็นโปรแกรมเมอร์จริงๆ ควรศึกษาเรื่องของภาษาการเขียนโปรแกรมจริงๆมากกว่า ซึ่งจะเป็นภาษาอะไรนั้นต้องลองค้นหาทำความเข้าใจแต่ละภาษาดูครับ มันมีข้อดีข้อเสียต่างกัน
6 @R19400
ผมว่าสังคมใน Webboard นี้ดีจริง ๆ แม้ว่าท่านผู้รู้ที่กรุณาเข้ามา ช่วยตอบคำถามเสมอ ๆ จนผมคิดว่าท่านเหล่านี้เก่งจริง ๆ แต่เมื่อถึงคราวเวลาให้ความเห็นแบบตรงไป ตรงมา ก็เป็นความเห็นที่ดีมาก ไม่เอียงเข้า Access มองด้วยสายตายาวไกล อะไรควรเป็นอย่างไร ขอบคุณมากครับ
7 @R19410
ลืมบอกไป ภาษา ABAP ครับ อันนี้เป็นอาชีพได้แน่ เป็นภาษาที่ทำมาใช้กับระบบ SAP โดยตรง เงินดีมากๆ แต่ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ต้องไปเรียนที่ไหนบ้าง สมัยก่อนได้ยินว่าต้องบินไปเรียนที่สิงคโปร์ ลองหาข้อมูลดูครับ
8 @R19411
เรียนที่ SAP Thailand แถวสีลมครับ
ค่าเรียนแพงมว๊าก
ค่าเรียนแพงมว๊าก
9 @R19417
มองจากมุมมองของคนที่ไม่ได้เรียนมาทางด้านไอที แต่ใช้ MS-Access มานานกว่า 10 ปี ผมเห็นว่า MS-Access ถ้าใช้เป็นการภายในกับกลุ่มเล็กๆ โดยไม่เน้นด้าน Security มากนัก มันก็สามารถใช้งานได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะการทำ Report ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและสวยงาม พอดีที่ทำงานมีระบบงานใหญ่ๆอยู่หลายตัว ซึ่งมี Database หลากหลายมาก ทั้ง Oracle, MS-SQL, MySQL, ใช้ MS-Access เป็น Front แล้ว Connect Database ต่างๆ ที่มาจากระบบใหญ่ๆ ด้วย ODBC ซึ่ง Users ก็พอใจและสะดวกมากจากการดู Report ที่สามารถ Criteria จาก Form ได้อย่างหลากหลายมุมมองตามที่ Users ต้องการ
10 @R19470
รายได้คน IT ปี 2014
พอดีอ่านเจอครับ ดูได้ที่นี่
http://www.patanasongsivilai.com/blog/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%99-it-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2014/
พอดีอ่านเจอครับ ดูได้ที่นี่
http://www.patanasongsivilai.com/blog/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%99-it-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2014/
11 @R19528
สวัสดีครับ เป็นคำถามที่ดี ขอแชร์ประสบการณ์ครับ
ผมพัฒนาระบบโดยใช้ Access ตั้งแต่ Access2-Access7-Access2003 9ตอนนี้จำเป็นต้องไปที่ Access2007 (ราชการ) Access2012(เอกชน)
คำถามว่า พัฒนาโดย Access ยึดเป็นอาชีพได้ครับ
มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ต้องจัดการ ซึ่งผู้ให้ความเห็นหลายท่านได้แนะนำถูกต้องครับ
ข้อดีก่อนนะ
1. Access มีเตรื่องมือครบในตัว มีทั้งฐานข้อมูล, คิวรี, ฟอร์ม, มาโคร, โมดูล และที่สำคัญคือรายงาน รองรับรายงานได้หลากหลาย ที่ไม่ด้อยกว่าใคร
2. สำหรับการใช้งานที่มี User มากๆ(เกิน100ต่ำ500) เอาไหวครับ แล้วแต่ Network / Server ที่ติดตั้งว่าแรงพอไหม เคยทำงานที่ฐานข้อมูลระดับ 500,000 Record ยังไหวอยู่
3. การทำงานกับโปรแกรมทั้งการจัดการฐานข้อมูลและการสร้างงานใหม่ ๆ เช่น การคิวรี่ข้อมูลที่นอกเหนือจากที่ได้เขียนไว้ การออกทำรายงานใหม่ที่ไม่ซับซ้อน ในการ Maimtainen ระบบ ผมวางกรอบไว้ว่าจะต้องให้คนในบริษัทของลูกค้าทำงานได้เอง ซึ่งไม่ผิดหวัง หาคนภายในที่ได้รับมอบหมายให้ดูแล สอนการใช้งานทำได้ครับ ทั้งที่บางคนไม่ได้จบทางคอมพิวเตอร์ก็ทำงานได้ ถ้าใช้ MSSQL สอนยากกว่ามากๆ
4. เรื่องลิขสิทธิไมใช่ปัญหา ผมให้ลูกค้าซื้อ Office ตัวเต็มที่มี Access 2 ชุด ชุดละหมื่นนิด ๆ ชุดหนึ่งลงที่ Server อีกชุดลงที่เครื่อง Admin เครื่องอื่น ๆ ให้ Download Runtime ตาม Version ที่ใช้ แล้วลง Runtime ที่เครื่องใช้งาน โดยผมแยกโปรแกรมกับฐานข้อมูลออกเป็น 2 ไฟล์ ฐานข้อมูลวางไว้ที่ Server โปรแกรมลงไปที่เครื่องใช้งาน (client/server platform) เครื่องAdmin / Server ถูกกว่าซื้อสิขสิทธิ MSSQL เยอะ
...ยังมีข้อดีอีกขอแค่นี้ก่อน
ข้อจำกัดที่ต้องดูแล
1. ขนาดของไฟล์ ถูกบังคับไว้ที่ 1G หากวางไว้ที่ Windows ทั่วไป 2G หากใช้ Windows Server ผมใช้วิธีการตัดค่าบางส่วนที่ไม่ได้ใช้ออก หลังจาก Backup ก็พอไหวครับ ต้องดูแลใกล้ชิดหากการเก็บข้อมูลมาก ๆ แต่ก็มีวิธีแก้คือหากมี Table ที่ใหญ่ ๆ หลายตัว ก็แยกเป็นไฟล์หลายตัวและทำ Link ใหม่ในโปรแกรมหลัก ก็ ไม่มีข้อจำกัดครับ
2.พื้นฐานภาษาที่ใช้ จำเป็นต้องถูกบังคับให้ใช้ภาษา VBA ใครถนัดภาษาอื่น อันนี้ลำบาก
3. โดยการพัฒนา Version ของ Microsoft ที่ใช้ทีมพัฒนาที่แตกต่างกัน ปวดหัวมากกับการอัพโปรแกรมที่เคยทำงานใน Version เก่า ไปทำงานบน version ใหม่ ผมไม่เคยได้เจอว่าพัฒนาบน Version เก่า แล้วเอาไป Convert ไป Version ใหม่แล้วใช้งานได้เลย เหนื่อยทุกครั้ง อันนี้ต้องยอมรับ (ตอนนี้ยังเจอปัญาหาคุยกับ Ribbon)
4. ระบบ Security พื้นฐานต้องยอมรับว่ามีปัญหา เพราะเข้าถึงได้ง่าย หากต้องการทำงานให้ระบบดีขึ้น ต้องลงลึกในการศึกษา เช่น การกำหนด Bypass (Shift) การกำหนด Password แต่ทำได้นะครับ ผมก็มีปัญหาเรื่องการเจาะข้อมูล แต่เจอไปแก้ไป พอไหวครับ บางประเด็นก็ได้จาก web นี้ละครับเอาไปปรับใช้
ผมดีใจที่ได้เจอสังคมผู้ใช้ Access และหวังว่าจะได้ความรู้จากทุกท่าน
ผมไม่ได้รู้ไปทุกเรื่อง รู้เรื่องไหนก็แบ่งปันครับ
ขอบคุณครับ
ผมพัฒนาระบบโดยใช้ Access ตั้งแต่ Access2-Access7-Access2003 9ตอนนี้จำเป็นต้องไปที่ Access2007 (ราชการ) Access2012(เอกชน)
คำถามว่า พัฒนาโดย Access ยึดเป็นอาชีพได้ครับ
มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ต้องจัดการ ซึ่งผู้ให้ความเห็นหลายท่านได้แนะนำถูกต้องครับ
ข้อดีก่อนนะ
1. Access มีเตรื่องมือครบในตัว มีทั้งฐานข้อมูล, คิวรี, ฟอร์ม, มาโคร, โมดูล และที่สำคัญคือรายงาน รองรับรายงานได้หลากหลาย ที่ไม่ด้อยกว่าใคร
2. สำหรับการใช้งานที่มี User มากๆ(เกิน100ต่ำ500) เอาไหวครับ แล้วแต่ Network / Server ที่ติดตั้งว่าแรงพอไหม เคยทำงานที่ฐานข้อมูลระดับ 500,000 Record ยังไหวอยู่
3. การทำงานกับโปรแกรมทั้งการจัดการฐานข้อมูลและการสร้างงานใหม่ ๆ เช่น การคิวรี่ข้อมูลที่นอกเหนือจากที่ได้เขียนไว้ การออกทำรายงานใหม่ที่ไม่ซับซ้อน ในการ Maimtainen ระบบ ผมวางกรอบไว้ว่าจะต้องให้คนในบริษัทของลูกค้าทำงานได้เอง ซึ่งไม่ผิดหวัง หาคนภายในที่ได้รับมอบหมายให้ดูแล สอนการใช้งานทำได้ครับ ทั้งที่บางคนไม่ได้จบทางคอมพิวเตอร์ก็ทำงานได้ ถ้าใช้ MSSQL สอนยากกว่ามากๆ
4. เรื่องลิขสิทธิไมใช่ปัญหา ผมให้ลูกค้าซื้อ Office ตัวเต็มที่มี Access 2 ชุด ชุดละหมื่นนิด ๆ ชุดหนึ่งลงที่ Server อีกชุดลงที่เครื่อง Admin เครื่องอื่น ๆ ให้ Download Runtime ตาม Version ที่ใช้ แล้วลง Runtime ที่เครื่องใช้งาน โดยผมแยกโปรแกรมกับฐานข้อมูลออกเป็น 2 ไฟล์ ฐานข้อมูลวางไว้ที่ Server โปรแกรมลงไปที่เครื่องใช้งาน (client/server platform) เครื่องAdmin / Server ถูกกว่าซื้อสิขสิทธิ MSSQL เยอะ
...ยังมีข้อดีอีกขอแค่นี้ก่อน
ข้อจำกัดที่ต้องดูแล
1. ขนาดของไฟล์ ถูกบังคับไว้ที่ 1G หากวางไว้ที่ Windows ทั่วไป 2G หากใช้ Windows Server ผมใช้วิธีการตัดค่าบางส่วนที่ไม่ได้ใช้ออก หลังจาก Backup ก็พอไหวครับ ต้องดูแลใกล้ชิดหากการเก็บข้อมูลมาก ๆ แต่ก็มีวิธีแก้คือหากมี Table ที่ใหญ่ ๆ หลายตัว ก็แยกเป็นไฟล์หลายตัวและทำ Link ใหม่ในโปรแกรมหลัก ก็ ไม่มีข้อจำกัดครับ
2.พื้นฐานภาษาที่ใช้ จำเป็นต้องถูกบังคับให้ใช้ภาษา VBA ใครถนัดภาษาอื่น อันนี้ลำบาก
3. โดยการพัฒนา Version ของ Microsoft ที่ใช้ทีมพัฒนาที่แตกต่างกัน ปวดหัวมากกับการอัพโปรแกรมที่เคยทำงานใน Version เก่า ไปทำงานบน version ใหม่ ผมไม่เคยได้เจอว่าพัฒนาบน Version เก่า แล้วเอาไป Convert ไป Version ใหม่แล้วใช้งานได้เลย เหนื่อยทุกครั้ง อันนี้ต้องยอมรับ (ตอนนี้ยังเจอปัญาหาคุยกับ Ribbon)
4. ระบบ Security พื้นฐานต้องยอมรับว่ามีปัญหา เพราะเข้าถึงได้ง่าย หากต้องการทำงานให้ระบบดีขึ้น ต้องลงลึกในการศึกษา เช่น การกำหนด Bypass (Shift) การกำหนด Password แต่ทำได้นะครับ ผมก็มีปัญหาเรื่องการเจาะข้อมูล แต่เจอไปแก้ไป พอไหวครับ บางประเด็นก็ได้จาก web นี้ละครับเอาไปปรับใช้
ผมดีใจที่ได้เจอสังคมผู้ใช้ Access และหวังว่าจะได้ความรู้จากทุกท่าน
ผมไม่ได้รู้ไปทุกเรื่อง รู้เรื่องไหนก็แบ่งปันครับ
ขอบคุณครับ
Time: 0.3361s
2. คงไม่หายไปง่ายๆครับ เพราะมีคนใช้กันทั่วโลก แต่จะนิยมมากขึ้นถ้าสามารถ Convert เป็นเว็ปได้อย่างสมบูรณ์แบบ