ถ้าหมายถึง ตัว Front-End (FE) ที่เป็นแอพพลิเคชั่นนั้นอยู่ที่แต่ละสาขา แล้วฐานข้อมูล Back-End (BE) (จะยี่ห้ออะไรก็ตาม) รวมศูนย์อยู่ที่ที่นึงแบบนี้ ไม่ว่าจะพัฒนาด้วย Access หรือโปรแกรมอะไรก็แล้วแต่ จุดที่ต้องคำนึงถึงเป็นหลักคือ performance ของระบบ ถ้าคุณใช้ไฟล์ .mdb เป็น BE เอง ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะวางทุกเทเบิลไว้ที่ BE เพราะมันจะช้าจนทำงานแทบไม่ได้ ในทางกลับกัน จะมีเพียงข้อมูลส่วนน้อยนิดเท่านั้นที่จะวางไว้ที่ศูนย์กลาง แต่ถ้าใช้ฐานข้อมูลที่สามารถรันพวก store procedure ได้ และเขียนโปรแกรมที่ให้การประมวลผลทำที่ BE ให้มากที่สุด ก็ถึงจะได้แอพพลิเคชั่นที่ทำงานได้

โดยหลักการแล้ว ไม่ว่าจะใช้ฐานข้อมูลระดับไหน เทเบิลที่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง เช่น รายการสินค้า ควรวางไว้ที่ FE เพื่อระบบจะได้ไม่ต้องวิ่งไปหาที่ BE ซึ่งเป็นการเสียเวลาอย่างมาก พอสิ้นแต่ละวัน ก็จะมีการถ่ายโอนเทเบิลพวกนี้ไปให้แต่ละสาขาใหม่ และก็ถ่ายข้อมูลจากสาขาไปศูนย์กลางด้วย ถ้าระบบฉลาดขึ้นไป ก็จะมีการบอกให้แต่ละสาขารู้ว่า มีข้อมูลอะไรบ้างที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปที่แตละสาขา โปรแกรมก็จะซับซ้อนขึ้นไปอีก

การเขียนโปรแกรมที่ความเร็วช่องทางสื่อสารเป็นคอขวดแบบนี้ จะต้องมีความเข้าใจวิธีการทำงานของฐานข้อมูลพอสมควร หรือไม่ก็ต้องใช้เครื่องมืออื่นในการพัฒนาเป็นเวปแอพพลิเคชั่นแทน เพราะการประมวลผลข้อมูลจะไปเกิดที่ฝั่งเวปเซิฟเวอร์ซึ่งก็มักเป็นที่ตั้งของดาต้าเบสเซิฟเวอร์ด้วย แล้วก็ส่งเฉพาะผลลัพธ์มาแสดงที่หน้าจอของเราครับ

ได้เลยครับ database ต้องเป็น ms sql server (หรือตัวอื่น) อยู่ที่สาขาใหญ่ หรือเช่า Host ก็ได้ ตกปีละประมาณ 4,000.-
ตัวลูก ใช้งานผ่าน internet

กำลังทำโครงการแนวนี้อยู่ สนใจ mail มาคุยกันได้ครับ

โหลดตัวอย่างโปรแกรมและสอบถามปัญหาต่าง ๆของการใช้งาน ms access เพิ่มได้ที่
http://access.crtrading.net